Thursday, August 18, 2016

ททท.ลงพื้นที่จัด Big Cleanning Day สร้างความเชื่อมั่นให้กับ นทท.เขาหลัก


เมื่อวันที่ 18 ส.ค 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานเปิดงาน“Big Cleanning Day”  พร้อมด้วย นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า นายสวัสดิ์ ตันเก่ง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคึกคัก, เจ้าหน้าที่กองร้อย ตชด.ที่425 เจ้าหน้าที่ฐานทัพเรือภาคที่3 เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา ที่บริเวณตลาดนัดบางเนียง หมู่ที่ 5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา   และประชาชนในพื้นที่ที่เข้าร่วมทำกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2559 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ และระเบิด จำนวน 2 จุด ที่บริเวณตลาดนัดบางเนียง หมู่ที่ 5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ทำให้เกิดความเสียหาย โดยมีร้านค้าที่ถูกเพลิงไหม้ จำนวน 80 ร้านค้า มูลค่าความเสียหายทั้งสิ่งก่อสร้างและทรัพย์สิน จำนวนเกือบ 10 ล้านบาท

ทางด้าน นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการทำความสะอาด  และ ปรับปรุงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีในจังหวัดพังงา ให้กลับมาสู่สภาพที่สมบรูณ์อีกครั้ง และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเยี่ยมชมในสถานที่ดั่งกล่าว สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประกอบการร้านค้าที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นการใช้จ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 ครอบครัวละไม่เกิน 11,000 บาท

ตร.เห็นท่าไม่ดี!! เจอ 4 หนุ่มพยุงสาวเมา ขอตรวจค้นเจอปืนลูกโม่


 เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 19 ส.ค. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ กนกวิลาศ สวป. สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย จันลา รอง สวป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ได้เข้าจับกุมตัวนายพลเชฏฐ์ ทนพิพัฒน์ อายุ 23 ปี อยู่ ม.4 ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น แบบลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อ สมิทแอนด์เวสสัน เลขทะเบียนปืน 355063 เครื่องกระสุนปืน 5 นัด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย

 สืบเนื่องจาก ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อมาถึงบริเวณกลางซอย 6 พัทยากลาง พบผู้ต้องหาพร้อมเพื่อนรวมทั้งหมด 4 คน กำลังช่วยกันพยุงสาวเมาสุรา เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นท่าไม่ดี เพราะกลัวกลุ่มบุคคลเหล่านี้ อาจจะพาสาวเมาสุราไปทำมิดีมิร้าย เหมือนกรณี 4 โจ๋ลวงสาวเข้าโรงแรมไปข่มขืนจนเสียชีวิต ตามที่ตกเป็นข่าว จากการแสดงตัวขอตรวจค้นพบอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวซุกอยู่ในกระเป๋าสะพายผู้ต้องหา จึงทำการจับกุมทันที

สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวเป็นของพี่ชายรู้จักกัน ซึ่งเป็นตำรวจอาสาสมัคร สภ.หนองปรือ ที่ฝากไว้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของเมื่อวานที่ผ่านมา เลยพกพาอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวไปนั่งดื่มสุรากับเพื่อนจนเมามาย ส่วนผู้หญิงที่กำลังเห็นพยุงอยู่นั้น ยืนยันว่าเป็นญาติกัน โดยจะพาตัวสาวเมาสุราไปส่งบ้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี

ชาวบ้าน อ.ครบุรี โคราช ผวาอีกรอบ พบรอยหมีขนาดใหญ่ บุกสวนขนุน


นครราชสีมา บ่ายวันที่ 18ส.ค.59 เจ้าหน้าที่เขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่  3  คลองน้ำมัน ได้รับแจ้งจากนาย ผู้ใหญ่บ้านหนองแคทราย หมู่ที่8 ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ว่าพบร่องรอยสัตว์ป่าซึ่งคาดว่าจะเป็นหมีป่า บุกเข้าไปกัดกินลูกขนุนภายในสวนของชาวบ้าน  เกรงว่าจะมีชาวบ้านได้รับอันตรายจากสัตว์ป่าตัวดังกล่าว  จึงลงพื้นที่เข้าทำการตรวจสอบ


โดยจุดที่พบร่องรอยจุดแรก เป็นสวนขนุนอยู่ท้ายหมู่บ้านห่างจากตัวชุมชนไม่ถึง 500 เมตร และอยู่ห่างจากเขตอุทยานแห่งชาติทับลานไม่ถึง 4 กิโลเมตร มีร่องรอยสัตว์ป่าขนาดใหญ่ปลิดขนุนที่กำลังจะสุกงอมออกมาจากต้นและฉีกกัดกินกระจายอยู่ทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังพบรอยเท้าคล้ายรอยเท้าหมีขนาดใหญ่เดินอยู่ภายในสวน เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังแกะรอยตามรอยเท้าไป พบว่ารอยเท้าเดินวนไปวนมาระหว่างสวนขนุนของชาวบ้านกับไร่มันสำปะหลังในลักษณะที่คาดว่าเพิ่งจะเดินผ่าน อีกทั้งยังมีอุจจาระของสัตว์ป่าตัวดังกล่าวอยู่ระหว่างทางรอยเท้าด้วย  แต่เนื่องจากพื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่การทำการเกษตรหลากหลายชนิดและมีเนื้อที่กว้างใหญ่มาก ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องยุติการค้นหา และเตรียมประชุมหารือกันเพื่อวางแผนในการจับหรือผลักดันสัตว์ป่าตัวนี้กลับสู่ป่าธรรมชาติอีกครั้ง ขณะเดียวกันทางผู้นำชุมชนต่างๆที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็ประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายของหมู่บ้านให้ชาวบ้านระมัดระวังตัว อย่าออกไปทำไร่ทำสวนเพียงลำพังและหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่สุ่มเสี่ยงยามค่ำคืนเพื่อความปลอดภัย

 
นายบุญคง มิเล ผู้ใหญ่บ้านหนองแคทรายหมู่ที่ 8 เปิดเผยว่า จากที่ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่และประสบการณ์ของตัวเองมั่นใจว่ารอยเท้าและร่องรอยต่างๆที่พบในวันนี้น่าจะเป็นของหมีควายขนาดใหญ่น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม สังเกตได้ชัดเจนจากรอยเท้าที่เหมือนรอยเท้าคนแต่ไม่มีส้นเท้า และพฤติกรรมการกัดกินขนุนนั้นเป็นพฤติกรรมของหมีอย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการพบร่องรอยหมีออกมาใกล้กับชุมชนในพื้นที่ขนาดนี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยจับหรือผลักดันหมีตัวดังกล่าวกลับเข้าสู่ป่าโดยเร็วที่สุด เพราะขณะนี้ชาวบ้านจำนวนมากกำลังหวาดระแวงเกรงว่าจะได้รับอันตราย

“ยิ่งลักษณ์” มาศาลสืบพยานจำเลยคดีจำนำข้าวนัด 2 เผยควรมีหลักฐานก่อนว่า “แม้ว” บงการบึ้มใต้


 เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่  19 ส.ค. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมทนาย เดินทางมาขึ้นสืบพยานฝ่ายจำเลยคดีจำนำข้าวเป็นนัดที่สอง โดยนัดนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องตอบคำถาม แต่จะเป็นส่วนของฝ่ายพยานตอบข้อสงสัยแก่อัยการฝ่ายโจทก์ รวมถึงการซักถามจากผู้พิพากษาองค์คณะในคดี โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีต ส.ส.อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีต รมช.พาณิชย์ นายยรรยง พวงราช อดีต รมช.คลัง เป็นต้น พร้อมมวลชนร่วมให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย โดยทันทีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาถึงกลุ่มมวลชนได้มอบดอกกุหลาบสีแดง พร้อมตะโกน "รักยิ่งลักษณ์" "นายกฯ ยิ่งลักษณ์สู้ๆ" เพื่อให้กำลังใจ

 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าศาลฯ ถึงกรณีมีบางฝ่ายกล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดชายแดนใต้ว่า นายทักษิณได้ปฏิเสธและส่งทนายดำเนินคดีแล้ว ส่วนตนอยากให้ผู้เกี่ยวข้องสืบเรื่องให้ชัดเจนก่อน

 น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีเอกสารลับการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ให้นโยบายอย่าให้ความเป็นธรรม สั่งเร่งรัดดำเนินคดีว่า ตนหวังว่าจะได้รับความยุติธรรม เพราะคดีนี้เป็นคดีสำคัญ ตนคงพูดได้เท่านี้

 อดีตนายกฯ กล่าวถึงกระบวนการแก้ไขคำถามพ่วงของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่พยายามจะให้ส.ว.เลือกนายกฯ และจะขอลดขั้นตอนการเสนอชื่อนายกฯ คนนอก ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญว่า อยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนเพราะการเลือกนายกฯ ต้องเลือกจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองก่อน ซึ่งเป็นเจตนารมณ์เริ่มต้น ส่วนจะไปตีความขยายอะไร อย่างไรนั้นขอให้คำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนว่าประชาชนได้รับทราบข้อมูลอย่างไร การขยายความอะไรต้องคำนึงถึงกรอบที่ได้เสนอไว้เริ่มต้นด้วย

 อย่างไรก็ตาม หากสุดท้ายส.ว.เสนอนายกฯ คนนอกขึ้นจริง ก็หวังว่าทุกฝ่ายจะไม่ทำอะไรผิดเจตนารมณ์และเคารพเสียงของประชาชน แม้ผลประชามติจะออกมาอย่างไร อยากให้ผู้ร่างรัฐธรรมนูญคำนึงถึงเจตนารมณ์นี้ เพราะหากเดินหน้าตามกติกา ทุกอย่างก็จะเข้าสู่ความสงบ

Sunday, July 31, 2016

ตร.เร่งสอบเด็กเสิร์ฟไทยใหญ่มีเงินในบัญชีกว่า 2 ล้าน หลังบุกทลายโอเกะกามที่ประจวบฯ

 จากเหตุการณ์ที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมปกครองค้นร้านบลูสตาร์คาราโอเกะ เลขที่ 39/1 ถนนสุขใจ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยสามารถช่วยเหลืองสาวไทยใหญ่ที่โดนล่อลวงมาขายบริการได้ถึง 9 คนอายุระหว่าง 14-18  ปี จึงควบคุมตัวนางกุ้ง สาวชาวไทยใหญ่ รับว่าเป็นผู้ดูแลร้าน นอกจากนี้ยังพบว่าเป็นเครือข่ายเดียวกับอาบอบนวดนาตารีที่โดนจับกุมที่กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา


 ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการตรวจค้นร้านคาราโอเกะดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องตกตะลึงเมื่อควบคุมตัวนายหนุ่ม ชาวไทยใหญ่ ที่อ้างว่าเป็นเด็กเสิร์ฟของร้าน พบสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารหลายเล่ม และเงินสดฉบับละ 1,000 บาทเป็นบึกนับแสนบาท

 เมื่อตรวจสอบสมุดบัญชี พบว่าเปิดโดยใช้ชื่อภาษาไทยและชื่อพม่ามีเงินฝากในบัญชีเล่มละกว่า 1 ล้านบาท รวมกว่า 2 ล้านบาท โดยนายหนุ่มรับว่าเงินทั้งหมดเป็นของตนเองที่มีเงินเป็นจำนวนมากเพราะไม่ได้ใช้เงิน เข้าอยู่เมืองไทยได้ 8 ปี ใช้จ่ายกับอยู่กับทางร้าน จึงมีเงินเก็บ โดยรับเงินเดือนประมาณ 6,000-7,000 บาท

 อย่างไรก็ตาม การสอบสวน เจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่านายหนุ่มทำหน้าที่เป็นคนจัดส่งเด็กสาวชาวต่างด่าวไปรับแขกตามสถานที่ต่างๆ และเงินทั้งหมดน่าจะได้มาจากการค้าประเวณีและไม่ใช่ของนายหนุ่มเอง แต่เป็นการรับเปิดบัญชีให้กับเจ้าของร้านตัวจริง 

  โดยเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของร้าน และของบุคคลภายในร้าน ตลอดจนทรัพย์สินทั้งหมด หากพบว่ามีการเกี่ยวข้องหรือได้มาจากการค้าประเวณี สำนักงานปปง.จะทำการยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ดูแลร้าน เด็กเสิร์ฟหรือคนเชียร์แขก หากพบว่ามีการแอบแฝงให้มีการค้าประเวณี จะถูกดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ มีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 15 ปี และยึดทรัพย์ทั้งหมด

ต้นกล้วยโดนโค่นแล้ว แต่ยังออกหัวปลี ชาวสุรินทร์แตกตื่นแห่ถูจนเจอเลขเด็ด

สุรินทร์ - 31 ก.ค. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ได้รับแจ้งจากนายบุญเชิด ศิริมงคล สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลตานี หมู่.5 บ้านโคกจำเริญ ต.ตานี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ว่า ที่บ้านเลขที่ 103 ม.5 บ้านโคกจำเริญ ต.ตานี ของนางเรือ ครองชื่น อายุ 61 ปี พบต้นกล้วยประหลาด


 เมื่อไปถึงก็พบนางเรือซึ่งอาศัยอยู่กับหลาน บอกว่า กล้วยมุกที่ตนเองปลูก และได้ตัดทิ้งไปหลายเดือนล้มลงนอนกับพื้นดินเหลือแต่โคนต้น มีรากเล็กน้อยติดพื้นดิน ต่อมาพบว่ากล้วยมุกออกหัวปลี โดยไม่มีใบเลี้ยงพอสร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง

 ต่อมามีชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่นำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้และขอหวยกันเป็นจำนวนมากยิ่งเฉพาะพรุ่งนี้วันที่ 1 สิงหาคม ตรงกับวันสลากกินแบ่งรัฐบาลออก ชาวบ้านต่างพากันนำดอกไม้ธูปเทียนแป้งมากราบไหว้และถูทาต้นกล้วยขอหวยกันอย่างคึกคัก บางคนก็บอกว่าเป็นเลขเด็ด แต่พอคนถามก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นเลขอะไร


ระทึก! เก๋งไฟลุกท่วมกลางมอเตอร์เวย์ พ่อแม่ลูกเปิดประตูหนีออกมาได้หวุดหวิด

 เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 31 ก.ค. ได้เกิดเพลิงไหม้รถเก๋งบนถนนสายมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ บริเวณด่านเก็บเงินพานทองหลัก กม.ที่ 67 จ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลนาป่า และเทศบาลตำบลดอนหัวฬ่อ จ.ชลบุรี ได้รุดไปดับเพลิงรถรถยนต์ยี่ห้อนิสสันเอ็นวี  ทะเบียน ดษ-1743 กทม. ซึ่งจอดอยู่ริมถนน เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรง


 ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามที่จะใช้น้ำฉีดนานกว่าชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ และพบเจ้าของรถคือนายศักดิ์สิทธ์ เหงี่ยมงาม อายุ 35 ปี ภรรยาและลูกวัย 4 ขวบ ยืนอยู่ห่างๆด้วยความตกใจ สภาพรถพังเสียหายทั้งคัน

สอบถามนายศักดิ์สิทธ์ ได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ตนเอง ภรรยาและลูกชายวัย 4 ขวบ เพิ่งกลับมาจากไปเที่ยวที่จังหวัดจันทบุรี และกำลังมุ่งหน้ากลับที่กรุงเทพ พอขับรถมาถึงด่านเก็บเงิน ได้จอดรถเพื่อรับบัตรผ่านทางจากนั้นได้ขับรถออกมาจากด่านเพียงไม่กี่เมตรก็เกิดเครื่องยนต์สะดุด ตนเองพยามจะเบรคแต่ก็เบรคไม่อยู่

 "จากนั้นจึงพยายามบังคับรถเข้าจอดข้างถนน และเพียงไม่กี่เสี้ยววินาที ก็มีกลิ่นควันไฟและแสงไฟที่ห้องเครื่องยนต์ ลามไปยังถังแก๊สที่อยู่ด้านหลังรถอย่างรวดเร็ว ผมพร้อมภรรยา ลูกชาย ได้พากันเปิดประตูวิ่งหนีลงมาจากรถอย่างรวดเร็วโชคดี ที่ไม่มีใคร ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต"นายศักดิ์สิทธิ์กล่าว

รวบหนุ่มโปลเมาอาละวาด ปล้น-ทำร้ายพนักงานสาวในร้านสะดวกซื้อ

เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 1 ส.ค. ร.ต.อ.ณัฐพล กฤษหมื่นไวย์ รอง สว.(สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งเหตุชาวต่างชาติก่อเหตุชิงทรัพย์ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เลขที่ 11173 สาขาพระราม 6 ซอย 27 ถนนพระราม 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจและกำลังฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท


 ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณปากซอยพระราม 6 ซอย 27 ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อ พบพนักงานของร้านต่างอยู่ในอาการตื่นตกใจ ภายในร้านพบว่าสินค้าพังกระจาย และเครื่องแคชเชียร์บริเวณเคาน์เตอร์พังเสียหาย ตกอยู่ที่พื้น และมีน้ำสุรานองเต็มพื้นส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้ทราบชื่อนายอาเดรียน พิวเตอร์ จูราสิก อายุ 41ปี สัญชาติโปแลนด์ พร้อมของกลางเป็นสุราต่างประเทศ  2 ขวด และบุหรี่ อีก 1ซอง จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สน.พญาไท
 สอบสวนน.ส.จิราภา จักษุธรรม อายุ 18 ปี พนักงานของร้านให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอาเดรียนเดินเข้ามาในร้านโดยสะพายกระเป๋าคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปสีดำอยู่ที่ด้านขวา จากนั้นก็เดินไปหยิบเบียร์มา 2 ขวดเพื่อให้พนักงานคิดเงิน ตนกำลังจะสแกนสินค้า จังหวะนั้น นายอาเดรียนหยิบเอาด้ามเหล็กต่อบล็อก ลักษณะคล้ายกับด้ามขาไม้เซลฟี่ ยาว 30 เซนติเมตร ชี้หน้าใส่ตนพร้อมพูดจาเสียงดังคล้ายข่มขู่ 

 จังหวะต่อมาชายคนนี้ดึงเส้นผมตนแล้วกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ก่อนจะล็อกคอแล้วผลักตนล้มกลิ้งลงกองกับพื้น แล้วพยายามเปิดเครื่องแคชเชียร์เก็บเงิน แต่เปิดไม่ได้ จึงผลักเครื่องแคชเชียร์ตกลงพื้น ก่อนจะกวาดทรัพย์สิน เป็นสุรา บุหรี่ ซึ่งขวดสุราบางขวดก็ตกกระแทกพื้นแตก แล้วกระโดดข้ามเคาน์เตอร์เดินออกจากร้านไปมุ่งหน้าไปทางแยกอุรุพงษ์ ทางพนักงานของร้านรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที  ขณะที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ทันควัน

  จากการสอบสวนนายอาเดรียนที่อยู่ในอาการมึนเมาสุรา ให้การว่า พักอาศัยอยู่ในโรงแรมเรนโบว์ภายในซอยดังกล่าว โดยหาซื้อเหล้าดื่ม แต่ปรากฏว่าไม่มีร้านใดขาย จนมาที่ร้านสะดวกซื้อ ก็พบว่าไม่ขายอีก จึงมีความโกธรโมโห และลงมือก่อเหตุดังกล่าว

  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธ และทำให้เสียทรัพย์ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

วัยรุ่นถูกรัวยิงดับ 2 ศพ คาปากซอยสายไหม แม่ค้าโดนลูกหลงเจ็บด้วย

เมื่อเวลา 22.40 น. วันที่ 31 ก.ค.59 ร.ต.อ.อนุสรน์ เนียมแก้ว ร้อยเวรสอบสวนสภ.คูคต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งมีวัยรุ่นปาระเบิดและไล่ยิงกันมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณปากซอยสายไหม 5 ม.8 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมหมาย ประสิทธ์ รองผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.เศรษฐนันท์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คูคต เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลภูมิพลและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู


 ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันปั้มหัวใจผู้บาดเจ็บ แต่ไม่อาจช่วยได้ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายณัฐพงษ์ เมืองจันทร์ อายุ 17ปี นักเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีฝีมือช่างปัญจวิทยา แผนกช่างยนต์ ปี 1 พำนักในหมู่บ้านแหวนยอด 2 ตำบลคูคตอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่กลางหลังจำนวน 4 แผล

ที่หลังมือด้านขวามีบาดแผลลักษณะถูกฟันด้วยของมีคมจำนวน 1 แผล และชายโครงด้านซ้ายถูกฟันด้วยของมีคม 1แผลและถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดกระสุนฝังอยู่ 1 นัด ปลายเท้าพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. แบบแม็กกาซีน จำนวน 1 กระบอก

ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตอีก 1 รายทราบชื่อ นายอิทธิพันธ์  สังขทัต ณ อยุธยา อายุ 17 ปี นักเรียนสถาบันเดียวกัน แผนกช่างกลโรงาน ปี 2 พำนักในหมู่บ้านอู่ทอง 2 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จ.ปทุมธานี

 ตรวจสอบตามร่างพบที่กลางอกถูกยิงด้วยอาวุธไม่ทราบขนาดจำนวน 3 แผลและกระเป๋ากลางยืนด้านหลังพบกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 1 นัดปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 นัดและกระสุนปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 1 นัด ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซูมเมอร์ เอ็กซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มอยู่ 1 คันมีคราบเลือดติดอยู่มาก 

 นอกจากนี้ยังมีแม่ค้าที่อยู่ใกล้เคียงถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดที่โคนขาด้านขวา จำนวน 1 นัด ทราบชื่อนางอุบล สุเทศ อายุ 60 ปี อยู่ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มไทรลำลูกกานำส่งโรงพยาบาลภูมิพล

 ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวน 9 ปลอกเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 จากการสอบถามนางเบญจพร สังขทัต ณ อยุธยา 55 ปี แม่ของนายอิทธิพันธ์ สังขทัต ณ อยุธยา ทราบว่า ลูกชายคุยโทรศัพท์กับตนเมื่อเวลา 21.00 น. บอกแต่เพียงว่าจะไปหาเพื่อน ไม่นึกว่าจะมาถูกยิงตายเช่นนี้ read more

Saturday, July 30, 2016

จ่อยิง"หน่อยโย่ง" ดับคาวัด เซียนพนันดังกรุง


เป็นอดีตผู้สมัครสส. แต่งตัวดีขับเบนซ์หรู ถูกดักฆ่าตอนขากลับ วงจรปิดจับภาพได้ชัด มือปืนขึ้นเก๋งแจ๊ซหนี

จ่อยิงดับอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทย สยองคาวัดย่านฝั่งธนฯ เผยผู้ตายเป็นนักพนันตัวยง ฉายา "หน่อยโย่ง" สอบเพื่อนอ้างมาทำธุระกับผู้ตายด้านหลังวัด จู่ๆ ได้ยินเสียงปืน 3-4 นัด รีบวิ่งมาดูเห็นเพื่อนสิ้นใจแล้ว ตร.เช็กวงจรปิด พบคนร้ายวิ่งหนีขึ้นเก๋งแจ๊ซที่มาจอดรอรับ ชาวบ้านกระซิบหลังวัดมีบ่อนพนัน ผบช.น. เร่งคลี่คดี เรียกสอบทุกปม คาดเรื่องส่วนตัวและธุรกิจ ระบุกระแสบ่อนพนัน อาจนัดมาเล่นกันเองในกลุ่มเพื่อน พรรคชาติไทย ชี้ ผู้ตายเคยลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรค แต่ ขณะนี้ไม่ได้เป็นสมาชิกแล้ว 


เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 30 ก.ค. ร.ต.อ. โยคิน เบญพาด รองสารวัตร (สอบสวน) สน.สมเด็จเจ้าพระยา รับแจ้งมีชายถูกยิงเสียชีวิตบริเวณลานจอดรถวัดทองเพลง ซอยเจริญนคร 14 ถนนเจริญรัถ แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม. จึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รองผบก.น.8, พ.ต.อ.อนุรักษ์ ยศประสิทธิ์ ผกก.สน.สมเด็จเจ้าพระยา, พ.ต.ท.กานดิศ ระวิโรจน์ สว.สส., เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน, เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน, แพทย์นิติเวช ร.พ.ศิริราช, และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง


ที่เกิดเหตุพบรถเบนซ์ อี200 สีดำ ทะเบียน 3กฐ 3232 กทม.จอดอยู่ โดยมีศพนายวีระ รอดพิทักษ์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/4 หมู่ 3 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. นอนเสียชีวิตสภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าคัตชูหนังสีดำ ตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ใบหูขวา 1 นัด ท้ายทอย 1 นัด ส่วนที่มือซ้ายยังกำกุญแจรถเบนซ์คันดังกล่าวไว้แน่น


จากการสอบสวนนายณรงค์ธรรม ทรัพย์เฉลิม อายุ 47 ปี เพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายได้ออกมาทำธุระบริเวณหลังวัด หลังเสร็จธุระต่างก็แยกย้ายกันกลับเมื่อตนเดินมาถึงรถก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 3-4 นัด จึงรีบวิ่งไปดูก็พบนายวีระนอนเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ


จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งอยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ก็พบว่าเวลาประมาณ 04.15 น. สามารถจับภาพคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ วิ่งออกจากจุดเกิดเหตุไปทางด้านหน้าของวัด แล้วขึ้นรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่มาจอดรอรับอยู่ก่อนแล้วหลบหนีไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ตายเป็นนักเล่นการพนัน มีชื่อฉายาว่า "หน่อยโย่ง" ไม่ได้ทำงาน นอกจากนี้ยังเคยลงสมัคร ส.ส.พรรคชาติไทย ย่านฝั่งธนบุรี และมีศักดิ์หลานของนายตำรวจท่านหนึ่ง ตำแหน่งรอง ผบก.ในพื้นที่ บช.น. สอบถามชาวบ้านในย่านดังกล่าวทราบว่าที่ด้านหลังวัดมีการเล่นการพนันกัน คาดว่าผู้ตายอาจจะมาเล่นการพนันในย่านนั้นแล้วเกิดขัดแย้งกัน ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุของการก่อเหตุดังกล่าว


ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน ที่สน.สมเด็จเจ้าพระยา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เรียกประชุมชุดสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดี ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง.ผบช.น., พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.น.8 จากนั้นไปตรวจสอบจุดที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดในวัดและพื้นที่ใกล้เคียง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที



พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายไปดื่มกินที่งานเลี้ยงฉลองการจบหลักสูตรด้านความมั่นคงกับกลุ่มเพื่อนๆ ก่อนจะมายังที่เกิดเหตุ จนถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งก็ได้ให้ เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว เบื้องต้นได้ตั้งไว้หลายประเด็นทั้งในเรื่องส่วนตัวและปมธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย โดยยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ส่วนที่มีรายงานว่าบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุมีการเปิดเป็นบ่อนการพนันนั้น ตนได้กำชับให้ในทุกพื้นที่ห้ามมีบ่อนการพนันโดยเด็ดขาด แต่กรณี ดังกล่าวอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นเพียงการนัดแนะเพื่อนๆ ในกลุ่มพบเจอกันเพื่อเล่นพนันชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบประวัติผู้ตายว่าทำธุรกิจใดบ้าง หรือร่วมลงทุนกับบุคคลใดหรือไม่ นอกจากนี้ได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากนายตำรวจที่เป็นญาติกับผู้ตายแล้ว โดยสอบถามในประเด็นเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว ครอบครัว รวมถึงว่าผู้ตายมีความขัดแย้งกับใครบ้างหรือไม่ และความขัดแย้งดังกล่าวรุนแรงจนสามารถนำไปสู่การสังหารได้หรือไม่ ในส่วนการตั้งข้อสงสัยว่าคนร้ายอาจจะเป็นคนใกล้ชิดเนื่องจากวัดระยะการยิงว่าอาจจะยิงใกล้ตัวผู้ตายเพราะกระสุนเข้าที่ท้ายทอย และกระสุนมีแรงส่ง ไม่มากนั้น ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐาน หลังจากนี้จะเรียกญาติ เพื่อน ภรรยา และบุคคลใกล้ชิดกับผู้ตายมาสอบปากคำ เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายต่อไป

รายงานข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนา เผยว่า ปัจจุบันนายวีระ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแต่อย่างใด เพียงแต่เมื่อการเลือกตั้งปี 2550 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งแบบพวงใหญ่ นายวีระ ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคชาติไทยในพื้นที่กทม. เขต 12 แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาว่าพรรคไม่ได้ที่นั่งส.ส.ในเขตดังกล่าว นายวีระ ก็ไม่ได้ติดต่อกับพรรคอีกเลย และสิ้นสมาชิกภาพ การเป็นสมาชิกพรรคไปเมื่อพรรคถูกยุบ 
 

แตกฮืออลหม่าน!! ตร.สุวรรณภูมิปิดถนนสกัดแว้นซิ่ง-ยึดจยย.13 คัน

 เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 30 ก.ค. พ.ต.ต.ไมตรี บูรณทอง สารวัตรจราจร สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สนธิกำลังจราจรและเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นำรถยนต์ปิดแยกเอเอฟเอฟ บนถนนสายสุวรรณภูมิ 3 เรียบรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อสกัดจับกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่รวมกลุ่มกันเข้าข่ายจะแข่งขัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดหัวท้าย ทำให้รถจักรยานยนต์บางคันเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ปิดกั้นจราจรต่างแตกฮือและพากันย้อนศรกลับไปทิศทางเดิม แต่สุดท้ายไปไม่รอด เจ้าหน้าที่ตามจับกุมเอาไว้ได้


 ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พบว่า มีอีกกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่พากันรวมตัวกันที่หน้าปั้มน้ำมันปตท. จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมและจับกุมโดยสามารถยึดรถจักรยานยนต์รวม 13 คัน นำผู้ขับขี่และรถจักรยานยนต์ทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ เด็กแว้นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่อ้างว่ารวมตัวกันเพื่อเดินทางไปเที่ยวบางแสน และเข้ามาภายในสนามบินโดยไม่รู้ว่ามีการห้ามนัดรวมตัวกันของเจ้าหน้าที่ ขณะที่บางกลุ่มอ้างว่าเดินทางนัดรวมตัวกันเพื่อเข้ามาถ่ายรูปเท่านั้น

 ด้าน พ.ต.ต.ไมตรี กล่าวว่า ในส่วนของกลุ่มจักรยานยนต์กลุ่มนี้เจ้าหน้าที่ได้บันทึกตรวจยึดจับกุมและตรวจสอบดำเนินคดีตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกในทุกข้อหาที่ตรวจพบ ทั้งนี้กลุ่มรถจักรยานยนต์ดังกล่าวยังไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 44 ในการแข่งขันรถในทาง จึงไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาจัดแข่งขันรถในทางสาธารณะหรือขับรถโดยประมาทไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และถือเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่เข้มงวดของเจ้าหน้าที่ในการป้องกันการแข่งขันรถแข่งขันในทางโดยเฉพาะถนนสายหลักภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

เด็กแว้นกลับจากดูรถคลาสลิคซิ่งเต็มถนนเกี่ยวกันล้มดับคาที่ คันตามหลังมาแหกโค้งเจ็บ


 เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 31 ก.ค. พ.ต.ต.วีรพล สิทธิพันธุ์ สารวัตร สอบสวน สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน จ.ปราจีนบุรีเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนไม้กั้นทางโค้งมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีอุบัติเหตุซ้ำซ้อนรถจักรยานยนต์ ที่วิ่งตามมาลื่นหลุดโค้งได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 ราย สถานที่เกิดเหตุ ตรงข้ามวัดสัปโคน ถนนสาย 3078 หรือ สายประจันตคาม – ศรีมหาโพธิ  ช่วงระหว่าง กม.26-27 หมู่ 4 ต.เกาะลอย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นและพร้อมด้วย พ.ญ.นิรัชพร วิจักษญบุญ แพทย์เวรฯ รพ.ประจันตคาม รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งเกือบหักศอก ที่ไม้กั้นทางโค้งพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้ารุ่นโซนิค 125 สีเหลืองคาดดำหมายเลขทะเบียน 1 กฆ 8862 ปราจีนบุรี สภาพแต่งเกือบเปลือยทั้งคัน ชนแผงเหล็กกั้นทางโค้งล้มตะแคงอยู่ริมถนนที่นอกแผงกันทางโค้ง พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายนุรักษ์ กลางหาญ อายุ 20 ปี เลขที่ 42 หมู่ 3 ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี สภาพศพหน้าผากยุบจากแรงกระแทกกับเหล็กกั้น ทางโค้งจนกระโหลกแตกมันสมองติดเสาเหล็กกั้นเสียชีวิตคาที่ เลยไป 5 เมตรเศษพบน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ นองพื้นและพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค 125 สีเหลืองคาดดำหมายเลขทะเบียน ขฉค 421 ชลบุรี จอดอยู่คนขับได้รับบาดเจ็บทราบชื่อคือนายไก่ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาวจ.ปราจีนบุรี หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.ประจันตคามก่อนหน้านี้

สอบสวนเบื้องต้นนายปราโมท มุ่งสุขใจ อายุ 56 ปี ชาวบ้านสัปโคน หมู่ 4 บ้านใกล้ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า พบรถจักรยานยนต์วัยรุ่นขับขี่กลับมาจากฝั่ง อ.ประจันตคาม 2 ชุดๆ ละกว่า 50 คัน เต็มถนนและได้ยินเสียงล้มจึงออกมาดูพบมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นเกือบ 100 คันที่จอดดู พูดคุยกันว่า กลับมาจากการร่วมเที่ยวงานรถคลาสสิค คาดว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตขับแข่งกันมาแล้วเกี่ยวกันล้ม หรืออาจแหกโค้งเองพุ่งชนเหล็กกั้นทางโค้งจนเสียชีวิตดังกล่าว
 
 ด้านนายไก่ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุไปเที่ยวเล่นน้ำตกตะคร้อ อ.ประจันตคาม พร้อมเพื่อน 4 -5 คน ขณะกลับพบเกิดอุบัติเหตุช่วงทางโค้งคนเต็มถนนได้ หักลงข้างทางแต่รถลื่นเสียหลักล้มเองใกล้ๆ กับรถผู้เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บ หน่วยกู้ภัยได้นำส่งรักษาที่รพ.ประจันตคาม
 
 ขณะที่ พ.ต.ต.วีรพล กล่าวว่า จะได้เร่งสอบสวนตรวจสอบพยานหลักฐานว่าเป็นอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์แหกโค้งด้วยตนเอง หรือว่ารถคันอื่นเกี่ยว-เฉี่ยวชน กันจนเสียชีวิตต่อไป
 
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ร.ต.อ.ถิรวัฒน์ เยี่ยมอ่อน ร้อยเวร สอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรีได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยศรีมหาโพธิ เกิดอุบัติเหตุมีรถจักรยานยนต์ ชนประสานงา กันในถนนตลาดสดท่าประชุม หน้าวัดใหม่กรงทอง ในเขตเทศบาลตำบลศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 2 คน หน่วยกู้ภัยนำส่งรักษาที่ รพ.ศรีมหาโพธิ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและรุดไปตรวจสอบ
 
 พบรถจักรยานยนต์ 2 คันชนประสานงากันล้มอยู่กลางถนนคันแรกเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นซุปเปอร์สีบอร์น-ดำ หมายเลขทะเบียน กธน 734 ปราจีนบุรี มีนายสุรพงษ์ จากงาม อายุ 23 ปี เลขที่ 73 หมู่ 3 ต.ท่างาม อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นเจ้าของได้รับบาดเจ็บ เลยไปเกือบ 5 เมตร เลนตรงกันข้ามพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีน้ำมันไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีนายโยธิน ปัญญพัฒน์ อายุ 38 ปี เลขที่ 2/3 หมู่ 3 ต.สัมพันธ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เป็นเจ้าของได้รับบาดเจ็บเช่นกันหน่วยกู้ภัยได้นำทั้งคู่นำส่ง รพ.ศรีมหาโพธิก่อนหน้า
 
 สอบสวนทราบว่าช่วงกลางดึกถนนโล่งทั้งคู่ต่างขับขี่ด้วยความเร็วจนชนประสานงาได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ดังกล่าว

แม่เด็กหญิงวัย 5 ขวบ พึ่งไสยศาสตร์ หลังหายจากที่นอนไร้ร่องรอย


เมื่อเวลา 17.40 น. วันนี้ 30 ก.ค.59  ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้ากรณี ร.ต.อ.ปรีชา จุลโพธิ์ รองสว. (สอบสวน) สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.สุพรรณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาวอ.ศรีมหาโพธิ ว่า ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ลูกสาววัย 5 ขวบ หายไปปริศนาระหว่างนอนอยู่ที่บ้านของนายสังเวียน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นบิดาของตนที่บ้านหลังหนึ่งที่บ้านปรือวายน้อย เบื้องต้น นายสังเวียน ซึ่งเป็นตาของเด็ก ให้การว่า ลูกสาวพาหลานสาวมาฝากไว้ที่บ้านตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. โดยเข้านอนกันปกติ แต่พอตนตื่นขึ้นมาอีกครั้งเวลา 02.00 น. ปรากฏว่า ด.ญ.สุนารี ได้หายไป ไม่ทราบว่ามีใครลักพาตัวไป จึงบอกแม่ของเด็กให้ไปแจ้งตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามหาตัวหนูน้อยรายนี้มา 2 วันแล้ว โดยไปจุดแรกที่ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านนายสุวรรณ อายุ 22 ปี สามีเก่ าน.ส.สุพรรณี และเป็นบิดาของ ด.ญ.เอ แต่ไม่พบตัวเด็กหญิง จากนั้นได้ติดตามหากับอดีตสามีอีกคนของ น.ส.สุพรรณี ที่เพิ่งเลิกรากันใน อ.ศรีมหาโพธิ แต่ยังไม่พบเช่นกัน


จากการสอบสวนว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 27 ก.ค. แม่ของเด็กดังกล่าวออกไปนอกบ้าน โดยฝากลูกสาววัย 5 ขวบไว้ที่บ้านของพ่อและแม่แต่กลับมาหายไปอย่างไร้ร่องรอยกลางดึก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สอบสวนกลาง บก.ปคม.กอง 2 และชุดสืบสวน สภ.ระเบาะไผ่ อยู่ระหว่างเร่งคลี่คลายคด้านนางสภาภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี กล่าวว่า ที่บ้านพักอาศัยรวมกัน 4 คน มี นายสังเวียน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี สามีของตน , น.ส.สุพรรณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปีบุตรสาว และ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) หลานสาววัย 5 ขวบที่หายไป  วันเกิดเหตุตนเองซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์เดินไม่ได้นอนในห้อง ส่วนหลานสาวที่หายไปนอนด้านนอกกับตา บุตรสาวไม่อยู่ออกนอกบ้าน  ได้ยินเสียงหลานสาวร้องหาแม่ แล้วเงียบหายไป และมาทราบอีกครั้งว่าหายออกจากบ้านไร้ร่องรอยดังกล่าว
  
นายสังเวียน ตาของเด็ก กล่าวว่า วันเกิดเหตุหลานสาวนอนอยู่กับตนเอง ปกติตนเป็นหูไว แต่วันที่เกิดเหตุไม่รู้เรื่องอะไร ตื่นมาไม่พบหลานสาวหายไปไร้ร่องรอยแล้ว
  
ขณะที่ พ.ต.ท.มงคล  โท้เป๋า รอง ผกก. สส.สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ล่าสุดตำรวจตามสอบสวนกับอดีตสามีเก่า  และอดีตสามีใหม่ที่เป็นบิตัญดาของเด็กหญิงเอ.ที่หายตัวไป ปรากฏว่ายังไม่พบเด็กแต่อย่างใด และได้ติดตามคดีเด็กหายต่อเนื่อง ดีนี้ ขณะที่ นางสุพรรณี ได้พึ่งหมอดู โดยทำนายว่าบุตรสาวจมน้ำเสียชีวิตอยู่ใกล้ๆ บ้าน จึงได้ติดต่อขอชุดประดาน้ำของหน่วยกู้ภัยร่วมกญูรวม 3 คนลงหาในบ่อน้ำใกล้บ้านรวม 3 บ่อเป็นสระน้ำขนาดกว้างประมาณ 6 เมตรยาว 8 เมตรเศษ แต่ยังไม่พบหนูน้อยวัย 5 ขวบ  ตามที่เสนอนั้น

วันนี้ (30 ก.ค.) หน่วยกู้ภัยทั้งร่วมกตัญญู ,หน่วยกู้ภัยศรีมหาโพธิ์ ได้พากันระดมค้นหา เบื้องต้นโดยการนำเครื่องสูบน้ำ มาสูบน้ำที่สระน้ำบ่อข้างบ้าน และกลางทุ่งนาใกล้บ้านที่คาดว่าอาจมีเด็กจมน้ำ จนน้ำแห้งถึงก้นบ่อยังไม่พบแต่อย่างใด  ท่ามกลางเพื่อนบ้านกว่า 100 คน ที่เฝ้าติดตามเหตุการณ์อย่างสนใจ นอกจากนี้ น.ส.สุพรรณี แม่ของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดเกาะแก้ว ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี มานั่งทางในค้นหาตามความเชื่อ โดยเชื่อว่ามีคนนำเด็กมาซุกซ่อนในป่าไร่มันสำปะหลังห่างจากหมู่บ้านประมาณ 700 เมตรเศษ โดยได้เดินเท้าค้นหาแต่ยังไม่พบตลอดทั้งวันถึงขณะนี้


เด็กแว้นซิ่งแข่ง!! แหกโค้งชนกระบะสาวช็อก จยย.เกี่ยวระเนระนาด เกลื่อน3ศพ(คลิป)

 เวลาประมาณ 12.50 น. วันที่ 30 ก.ค. พ.ต.ท.สายชล จงปลูกกลาง พนังงานสอบสวน สภ.โนนไทย อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์กระบะ บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 2105 โนนไทย-ขามสะแกแสง บ้านถนนโพธิ์ ตำบลถนนโพธิ์ อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย จึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบลโนนไทย


 ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย ทั้งหมดเป็นเยาวชนอายุ 12-16 ปี นอนกระจายเกลื่อนเต็มถนน ใกล้กันมีรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ 3 คัน และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน บร 8520 สระบุรี จอดอยู่ สภาพบริเวณกระจังด้านหน้ารถ มีร่องรอยการถูกชนเสียหาย

จากการสอบถามผู้หญิงที่ขับรถยนต์กระบะคู่กรณีทราบว่า เด็กวัยรุ่นที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน แข่งขันกันมาตามถนน และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงทางโค้ง รถจักรยานยนต์คันหนึ่งได้ขับไปเฉี่ยวรถยนต์กระบะที่กำลังวิ่งสวนทางมา เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ทั้ง 3 คันไปเกี่ยวกันล้มลงระเนระนาด จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังต้องรอสอบปากคำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายก่อน ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับใคร read more


เร่งตรวจกล้องวงจรปิด ปมยิงนายวีระ รอดพิทักษ์ กำชับกวาดล้างบ่อนเด็ดขาด

เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เรียกประชุมชุดสืบสวนหาสาเหตุกรณีคนร้ายยิงนายวีระ รอดพิทักษ์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรคชาติไทยก่อน เดินทางตรวจจุดเกิดเหตุในลานวัดทองเพลง ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 14


ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง.ผบช.น.ซึ่งดูแลด้านสืบสวน พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.น.8 ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ในลานจอดรถของวัดทองเพลงใก้ลกำแพงวัดพบคราบเลือดก่อนเดินตรวจสอบจุดที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณวัดและพื้นที่ใก้ลเคียงประมาณ 30 นาที พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวภายหลังว่า ตั้งแต่หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งตรวจหาพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานบุคคลเพื่อตรวจสอบข้อมูลและหาสาเหตุซึ่งได้วางประเด็นไว้หลายประเด็นทั้งในเรื่องส่วนตัวและปมธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตซึ่งต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานสักระยะน่าจะมีความคืบหน้าเพิ่มขึ้น


"ส่วนที่มีรายงานว่าสาเหตุน่าจะมาจากบ่อนการพนันนั้น ตนเองได้กำชับให้ในทุกพื้นที่ห้ามมีบ่อนการพนันโดยเด็ดขาด แต่หากจะมีการนัดหมายกันมาเปิดเล่นเป็นลักษณะขาจรบ้างนั้น ตนเองได้สั่งการให้ตำรวจท้องที่เข้มงวดสืบสวนหาข่าวและออกตรวจตราเพิ่มขึ้นแล้ว"พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว 


หน่วยคอมมานโด ปูพรมบุกตรวจค้น 4 จุดคดีสำคัญ ฟอกเงิน ยาเสพติด

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 30 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข พล.ต.ต.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รองผบช.ก. ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่คอมมานโดกองปราบปราม ตำรวจกองปราบปราม กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.รวมกว่า200 นาย เปิดปฏิบัติการปูพรมตรวจค้น 4 จุดในคดีสำคัญตามความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน

โดยจุดแรกพล.ต.ต.ชวลิต พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รองผบก.ป. พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป.พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ รองผกก.ปพ.บก.ป.พ.ต.ท. วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รองผกก.1บก.ป. นำกำลังคอมมานโด ตำรวจกองปราบปราม ,กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.รวมกว่า 100 นาย นำหมายค้นของศาลอาญา รัชดาภิเษก เลขที่ 1470/2559 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 เข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 16 -16/3 ซอยนวมินทร์ 74 แยก 9-6 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวอโนทัย ฉัตรวรางค์กูล ผู้ต้องหาตามความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน หลังสืบทราบเป็นบ้านเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ โดยบ้านดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่กว่า 200 ตารางว่า มีรั้วรอบขอบชิดสูงกว่า 3 เมตร มีทางเข้าออก 2 ทาง มีบ้านอีก 2 หลังอยู่ในพื้นที่เดียวกัน 

เจ้าหน้าที่กระจายกำลังปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวตามยุทธวิธี พร้อมแสดงหมายค้นและใช้เครื่องขยายเสียงเจรจาให้ผู้อยู่ในบ้านเปิดประตู แต่ผู้อยู่ในบ้านไม่ยอมเปิดประตู โดยใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ ชุดคอมมานโดจึงใช้อุปกรณ์เหล็กกระทุ้งประตูรั้ว ก่อนที่จะมีผู้อยู่ในบ้านจะยอมเดินออกมาเปิดประตู ให้ชุดคอมมานโดเข้าเคลียร์พื้นที่ และเข้าตรวจสอบภายในบ้าน จากการสอบถามแม่บ้านซึ่งรับเป็นผู้ดูแลบ้านเปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวมีคนงานพักอาศัย 6 คน โดยทางเจ้าของบ้านไม่อยู่เดินทางไปที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เจ้าหน้าจึงขอให้ผู้อยู่ในบ้านแสดงตัวแต่ปรากฏว่ามีคนงานเป็นชาวต่างด้าว 5 คนปรากฏตัว เป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน เจ้าหน้าที่จึงได้กำลังค้นหาโดยรอบ กระทั่งพบคนงานชายชาวพม่าหลบหนีอยู่ใต้ถุนบ้าน จึงได้คุมตัว ก่อนทำการตรวจค้นภายในบ้าน เบื้องต้นพบรถยนต์หรูหลายคัน อาทิรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว 2คันรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน และรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า 1 คัน อีกทั้งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบภายในบ้านเพื่อหาเอกสารหลักฐาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปง.เพื่อหาความเชื่อมโยงเครือข่ายยาเสพติด


จุดที่ 2 พ.ต.ท.วชิรา ยาวไทสงค์ รองผกก.ปพ.บก.ป. นำกำลังตำรวจคอมมานโด เข้าตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ ภายในซ.ซอยนวมินทร์ 74 แยก 9-6 ซึ่งอยู่ในพื้นด้านหลังบ้านของหลังแรก โดยบ้านดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 1 ชั้น เปิดเป็นอาคารสำนักงานและโกดังเก็บสินค้า และอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบภายในบ้านเพื่อหาเอกสารหลักฐาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปง.เพื่อหาความเชื่อมโยงเครือข่ายยาเสพติด


จุดที่ 3 พล.ต.ต.สมหมาย พร้อมด้วย พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม รองผกก.1บก.ป.สนธิกำลังตำรวจ กก.1บก.ป. และตำรวจบก.ปอท. เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 333/94 ภายในหมู่บ้านวิสต้าปาร์ค ย่านราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล ศิวาธนพล อายุ 26 ปี พริตตี้แคดดี้สาว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.563/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือรับของโจร กรณีรับโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทางคดีและรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ยี่ห้อยาริส สีขาวหมายเลขทะเบียน ญณ 8222 กรุงเทพมหานคร เพื่อไปทำการตรวจสอบ พร้อมทั้งยึดบ้าน

จุดที่ 4 พล.ต.ต.อภิชาติ รองผบช.ก. พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เกิดเอี่ยม สว.กก.1บก.ป. สนธิกำลังตำรวจ กก.1บก.ป. และตำรวจบก.ปอท. เข้าตรวจค้นบ้านของ น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 52 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.561/2558 ลงวันที่ 24 ส.ค.2558 และ น.ส.อุรชา หรือ ป้อนข้าว วชิรกุลฑล อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.562/2558 ลงวันที่ 24 ส.ค. 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน กรณีนายชูวงษ์ ภายในหมู่บ้านบางกอกบูเลอวาร์ด พระราม9-ศรีนครินทร์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทางคดีเพื่อนำไปตรวจสอบ พร้อมทั้งยึดบ้าน

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ บชก.ร่วมกับ ปปง.กระจายกำลังตรวจค้นบ้านเป้าหมายที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ในกรุงเทพฯ รวม 4 จุด โดยเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด และคดีโกงหุ้นนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อย่างไรก็ตาม ของกลางทั้งหมดที่ยึดได้ในครั้งนี้จะนำไปรวมกับของกลางในหลายคดีที่ ปปง.มีมติให้ทำการตรวจยึดและอายัด โดย พล.ต.อ. ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการ ปปง. และพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ จะแถลงข่าวในวันนี้เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานปปง.ต่อไป

ฆ่าโหดเจ้าของร้านอาหารดัง!! ญาติเรียกหน้าห้องนอนไร้เสียงตอบ-เปิดเจอศพสยอง


 เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 30 ก.ค. พ.ต.ท.อดุลย์ จินดาหลวง สารวัตรเวร สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนถูกทำร้ายจนเสียชีวิตที่ ถนนไกรสรสิทธิ์ ต.รอบเวียง อ.เมือง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ให้รับทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบเป็นคอนกรีตชั้นเดียว โดยเปิดเป็นร้านอาหารชื่อ "ทับทิมหลวง" ซึ่งเป็นร้านชื่อดังในจังหวัด ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำกก มีชุมชนที่ตั้งอยู่ติดกัน โดยร้านตั้งอยู่ท้ายชุมชน ส่วนจุดเกิดเหตุเป็นห้องนอนที่อยู่ในอาคารหลังเดียวกันแต่อยู่ชั้นในเข้าไป พบศพนางอุบล มีแก้ว อายุ 86 ปี อยู่ ม.4 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี สภาพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่กับพื้นห้อง โดยมีรอยถูกแทงด้วยของมีคม เข้าที่แขนและลำตัวหลายแผล จนเลือดไหลนองพื้น

 จากการตรวจสอบภายในห้อง พบมีรอยเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่วบริเวณ เพราะมีรอยการรื้อค้น โดยคาดว่าที่มือของคนร้ายมีเลือดเปื้อนติดไปด้วย เจ้าหน้าที่จึงเก็บข้อมูลและหลักฐานรอยรื้อค้นไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นแจ้งแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ไปทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด และแจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝงและหลักฐานอื่นๆ

 เบื้องต้นคาดว่าอาจมาจากเหตุชิงทรัพย์ โดยผู้ก่อเหตุเข้าไปพบผู้ตายที่อยู่ในห้อง และร้านตามลำพังคนเดียว จึงลงมือใช้มีดแทงอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะรื้อค้นเพื่อหาทรัพย์สิน ซึ่งเจ้าหน้าที่และญาติอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีทรัพย์สินใดสูญหายไปบ้าง

 จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าร้านอาหารดังกล่าวจะเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น. เป็นประจำทุกวัน และคืนก่อนเกิดเหตุได้เปิดให้บริการตามปกติ โดยนางอุบลและญาติจะคอยอยู่ดูแลร้าน กระทั่งดึกถึงเวลาจึงปิดร้านตามปกติ โดยนางอุบลเข้าไปนอนพักในห้องนอนด้านใน ส่วนญาติยังไม่เข้านอน โดยออกไปทำธุระนอกร้าน ขณะที่พนักงานต่างแยกย้ายกันกลับ กระทั่งเวลา 03.30 น. ญาติเดินกลับเข้าร้านเพื่อจะเข้าไปนอนพักในห้องนอน

 แต่เมื่อเรียกผู้ตายให้เปิดประตูด้านหน้า ผู้ตายไม่ขานรับ และยังพบร่องรอยการรื้อค้น ขณะที่ประตูด้านข้างถูกเปิด โดยมีร่องรอยการรื้อค้นด้วย เมื่อเข้าไปดูก็พบว่านางอุบลถูกแทงจนเสียชีวิตแล้วดังกล่าว จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ให้ได้รับทราบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งสืบสวนสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หนุ่มอินเดีย วิ่งตามจับแก๊งกะเทยทำเนียนลวนลามก่อนปลดสร้อย

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 30 ก.ค. ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย จันลา รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้จับตัวสาวประเภทสองก่อเหตุปลดสร้อยไว้ได้ เหตุเกิดบริเวณปากซอย 13/1 ชายหาด ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรีบรุดไปตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุพบกลุ่มนักท่องเที่ยวพร้อมหญิงไทยจำนวน 6 คนช่วยกันจับตัวนายก้อนคำ จันทจร อายุ 24 ปีสัญชาติลาว ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สาวประเภทสองคนดังกล่าวเป็น 1 ในแก๊งที่ได้ก่อเหตุปลดสร้อยคอของ นายกาพิท กูมา รากาไว (MR.KAPISH KUMAR RAGAWAL) อายุ 24 ปี สัญชาติอินเดีย เจ้าของโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ราคาประมาณ 40,000บาท แต่เพื่อนร่วมแก๊งอีก 2 คนได้แยกย้ายกันหลบหนีไป


สอบสวนผู้เสียหายทราบว่าตนเองนั้นได้เดินทางมาเที่ยวพัทยาได้ 3 วัน จนกะทั่งก่อนเกิดเหตุได้มาเที่ยวสถานบันเทิงใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ กับเพื่อนสาวชาวไทย ในขณะที่ต่างคนต่างเดินไปยังร้านได้มีสาวประเภทสอง 3 คน ทำที่เข้ามาโอบกอด ตนได้ผลักออกแต่นายก้อนคำ พยายามดึงรั้งไว้เพื่อให้เพื่อนร่วมแก๊งปลดสร้อย ก่อนพากันแยกย้ายไปเฉยๆ ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งสังเกตพบว่าสร้อยคอได้หายไป จึงรีบวิ่งตามหากลุ่มสาวประเภทสอง แต่ก็พบแค่นายก้อนคำ ยืนหลบอยู่คนเดียวจึงพากันวิ่งไล่จับแล้วรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว


เบื้องต้น ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย ได้สอบปากคำนายก้อนคำ ได้ให้การยอมรับว่าได้ร่วมกับเพื่อนอีกสองคนก่อเหตุจริง แต่ไม่ใช่แก๊งเดียวกัน เพียงแต่ได้ถูกว่าจ้างหากช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของเหยื่อก็จะแบ่งเงินที่ขายทรัพย์สินได้ให้ แต่นายก้อนคำ ยังไม่ยอมเปิดปากบอกว่าผู้ร่วมก่อนเหตุและนำทรัพย์สินไปเป็นใคร อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะติดตามขยายจับกุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ระทึก!! วิสามัญลูกชายอดีตเสือดัง มือปืนยิงดาบตร. หลังไล่ล่า-สาดกระสุนสู้(คลิป)

วันที่ 30 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ด.ต.อรรณพ เครืออนันต์ อายุ 44 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน ป.สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้ขยายผลล่อซื้อยาบ้าจากพ่อค้ายาบ้า นายประนอม สีสุข อายุ 45 ปี ชาว อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี สถานที่เกิดเหตุ หมู่ที่ 3 ต.วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่พ่อค้ายาบ้าไหวตัวทันยิงปืนใส่หน้าอก ด.ต.มานพ จำนวน 2 นัด แขนซ้ายอีก 1 นัด บาดเจ็บสาหัส นำส่ง ร.พ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และเสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น


ล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ไพโรจน์ ตีรโสภณ ผกก.สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ร่วมกับ กำลังเจ้าหน้าที่และตำรวจภูธร ภาค 1 ได้ทำการวิสามัญ นายประนอม สีสุข แล้ว ในกุฏิร้าง สำนักปฎิบัติธรรมตาดชัยศรี หมู่ที่ 1 ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี แยกจากถนนสาย แก่งคอย–บ้านนา เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร ก็ถึงสำนักสงบ้านตาดชัยศรี ตั้งอยู่เนินเขา ไม่สูงมาก

 โดยในกุฏิ พบศพนายประนอม แต่งชุดผ้าสบงเหลืองของพระ ไม่โกนผม ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด เข้าขมับขวาทะลุซ้าย ข้างเอวซ้ายมีปืนขนาด .32 ของนายประนอมตกอยู่ข้างๆ เบื้องต้นทราบว่า นายประนอมยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่า มีการยิงปะทะกัน จนเวลาประมาณ 22.00 น. คณะไล่ล่าติดตาม ชุดหนึ่ง 4 คน สืบทราบจากชาวบ้านว่า เห็นมีคนแปลกหน้ามาที่สำนักสงฆ์ฯ จึงนำกำลังมาตรวจดูที่กุฏิ ขณะเดินผ่านหน้ากุฏิ ที่เป็นกระจก ต่างคนก็เผชิญหน้ากันผ่านกระจก เจ้าหน้าที่ตำรวจกระโดดหลบ คนละทางและเรียก นายประนอม จากนั้นนายประนอมก็กระหน่ำยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และตำรวจก็ยิงตอบโต้ รวมเสียงปืนดังประมาณ 6-7 นัด เสียงปืนก็สงบ ปรากฏว่า นายประนอมถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว ที่กระจกหน้า มีรูกระสุน ข้างล่าง 3 นัด ข้างบน 4 นัด ที่เกิดเหตุเก็บปลอกกระสุน ขนาด .32 ของคนร้ายได้ 4 ปลอก

 นอกจากนี้ ยังพบว่า นายประนอมได้ถอดเสื้อผ้าซักแช่ไว้ในถังพลาสติกของสำนักสงฆ์ แล้วเอาสบงจีจรพระมาใส่แทน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่งศพพิสูจน์สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ
 ชาวบ้านใกล้ๆ สำนักสงฆ์ อยู่บริเวณเนินเชิงเขา ได้ยินเสียงปืนดัง 4-5 นัด ก็เงียบหายไป สักครู่ ก็มีรถเจ้าหน้าที่ รถปอเต็กตึ๊งเดินทางมากันมากมาย

 โดยแนวทางติดตาม สืบประวัติ ทราบว่า นายประนอม เป็นลูกชายของอดีตเสือดัง คนหนึ่ง และคุ้นเคยในป่าบริเวณพื้นที่นี้ดี ประกอบกับมีชาวบ้านเห็นว่า มีคนลงมาจากเขา มาขออาหาร ขอน้ำ ขอบะหมี่  เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นนายประนอม จึงปิดเส้นทางลงจากเขาทุกเส้นทาง ขุนเขาชะอม และเฝ้าซุ่มโป่ง ตามจุดที่คาดเดา เชื่อว่านายประนอม ยังกบดานหลบอยู่ในขุนเขาชะอม

 จนเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 29 ก.ค. นายประนอมได้มาปรากฏกายที่ข้างโอ่งน้ำสำนักปฎิบัติธรรมบ้านตาดชัยศรี มาขออาหาร ขอบะหมี่กิน และขออาศัยนอน พระจรัส อรชน เจ้าสำนักปฏิบัติธรรม   จึงจัดอาหารให้ และจัดให้ไปนอนกุฏิร้างของลูกศิษย์ เพราะลูกศิษย์ไม่อยู่ โดยไม่คิดอะไร คิดว่าท่าทางหิวโซ คงเป็นคนจรมาขอข้าวกิน ขออาศัยนอน จากนั้น พระจรัส ก็ขึ้นเขาไปปฏิบัติธรรมจำวัดอีกกุฏิหนึ่งที่ขึ้นเนินเขาไป โดยในกุฏินั้นก็มีจีวรพระสงฆ์เก็บไว้


"ยิ่งลักษณ์" เตรียมข้อมูลพร้อมแถลงเปิดคดีจำนำข้าว 5 ส.ค.นี้

เมื่อวัน30 ก.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า  ได้ใช้เวลาว่างในวันหยุด เตรียมพร้อมข้อมูลและเอกสารต่างๆเพื่อใช้สำหรับการแถลงเปิดคดีทุจริตรับจำนำข้าวด้วยตัวเองและเตรียมตอบคำถามฝ่ายโจทก์นัดแรกในวันที่ 5 ส.ค.59นี้ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง




หนุ่มรถหาย 5 เดือน ก่อนเห็นขับผ่านหน้าอีกครั้ง แจ้งตำรวจสกัดจับได้


เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 ก.ค. พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ร่วมกับ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ ฤทธาคณานนท์ ผกก.สภ.สาขลา พร้อม พ.ต.ท.ราม รสหอม รอง ผกก.และชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงจับกุม นางสาวผกามาศ ประดับวงษ์ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่  377/76 ม.2 ต.บ้านกลางสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน 2กพ 9425 กทม. (ทะเบียนสวม) ณ สภ.สาขลา อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ


สืบเนื่องจากเมื่อ 28 ก.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. จ.ส.ต.โอภาส สงวนแสง ผบ.หมู่(จร.) สภ.สาขลา อำนวยความสะดวกจราจรอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนสารสาสน์วิเทศศึกษา ม.10 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน 2กพ 9425 กทม. (รถยนต์ของกลาง) ซึ่งมีลักษณะต้องสงสัยคล้ายกับที่นายธนพนธ์ เกลียววงศ์ อายุ 38 ปี เจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว แจ้งหายไว้ในเขตพื้นที่ สน.ราษฏ์บูรณะ เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 04.00 น. ที่ผ่านมา จึงได้เรียกให้หยุดแสดงตัวขอทำการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว จากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าของรถพบว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์คันที่แจ้งหายไว้จริง แต่ได้มีการสวมทะเบียนปลอม โดยทะเบียนเดิมคือ ญภ 5606 กทม. เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวผู้ต้องหาและนำของกลาง มายัง สภ.สาขลาเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ด้านนายธนพนธ์ เกลียววงศ์ เจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวเล่าว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้ไปกินเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนที่ร้านอาหารต้นไทร ซ.สุขสวัสดิ์ 26 เขตราษฏ์บูรณะ กทม. ตั้งแต่เวลา 21.00 น. จนกระทั่งเวลา 03.00 น. ตนกำลังจะเดินทางกลับบ้าน เมื่อออกมาที่จอดรถพบว่า รถยนต์ของตนได้หายไป จึงของทางร้านดูกล้องวงจรปิด ก่อนที่จะเดินทางไปแจ้งหายไว้ที่ สน.ราษฏ์บูรณะ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า เวลาประมาณ 00.06 น. ได้มีชายรูปร่างสูง ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีออสมาจอดบริเวณหน้ารถของตนประมาณ 10-20 นาที ก่อนจะเดินลงมาจากรถและทำการกดรีโมท จากนั้นได้เปิดประตูรถยนต์เข้าไปนั่งก่อนสตาร์ทขับรถยนต์ของตนออกไป จากนั้นผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ชายคนดังกล่าวได้กลับมาขับรถยนต์วีออสกลับออกไป 


จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ตนได้เห็นรถยนต์คล้ายกับของตนได้ขับผ่านไปมาบริเวณหน้าโรงเรียนสารสาสน์วิเทศศึกษาที่ตนได้ทำงานอยู่ แต่ขับผ่านไปมาอย่างรวดเร็ว ไม่ทันสังเกตแน่ชัดว่าเป็นรถของตนเองหรือไม่ ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับผ่านหน้าโรงเรียนในช่วงที่รถติด ตนจึงสังเกตเห็นชัดเจนว่าเป็นรถยนต์ของตน เนื่องจากชุดแต่งรถยนต์ และตำหนิต่างๆ มีลักษณะที่ตรงกัน จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบรถยนต์คันกล่าว พบว่าเป็นรถยนต์ของตนที่หายไปจริง


เบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธว่า ตนได้นำรถของเพื่อนแฟนมาใช้ โดยไม่ทราบว่าได้มาอย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ราษฏ์บูรณะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Thursday, July 28, 2016

แห่ซื้อเลขมงคลเกลี้ยงแผง หวยอดีตรมต.ยังพอหาได้ แม่ค้าเผยสูตรคำนวณหาเลขเด็ด‘ซุปเปอร์’


เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนต่างออกมาหาซื้อเลขมงคลกันอย่างคึกคัก ทั้งที่ย่านสุสานหายยา, ประตูช้างเผือก, ประตูเชียงใหม่, ย่านถนนมหิดล, ย่านขนส่งอาเขต, สถานีรถไฟ อ เมืองเชียงใหม่ เและบริเวณถนนเชียงใหม่ลำพูน อ.สารภีเชียงใหม่ นอกจากนี้ พ่อค้าแม่ค้าเร่เดินขาย ตามร้านอาหารต่างๆ ประชาชนก็จะถามหาเลขเด็ดเลขมงคล ซึ่งปรากฏว่าขายเกลี้ยงแผงไปนานแล้ว ขณะที่เลขเด็ดของอดีตรัฐมนตรีก็ขายดีเช่นกัน แต่ยังมีให้ได้เป็นตัวเลือกอยู่ คือ 2 หลักสิบ

น.ส.สายชล เมืองงามดี อายุ 44 ปี แม่ขายหวยย่าน ถ.เชียงใหม่ ลำพูน อ.สารภีเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เลขมงคลขายเกลี้ยงแผงไปนานแล้ว ทุกแผง แต่ประชาชนก็ยังถามหาทั้งเลข 812, 828, 829, 984, 970 ส่วนเลขสองหลักก็จะมี 12, 28, 29, 95 ซึ่งก็จะไปตรงกับเลขเด็ดของอดีตรัฐมนตรีปรีดา ที่ท่านแจ้งไว้งวดนี้ 2 หลักสิบ นอกจากนี้ ยังมีเลขมงคลทั้ง 2495 และ 2475 ก็ขายดีเช่นกัน

ส่วนเลขเด็ดของท่านอดีตรัฐมนตรีปรีดา ที่ท่านให้มา 2 หลับสิบ ก็ถือว่าตรงกับเลขมงคล แต่การได้รับความนิยมลดลง ยังคงเหลืออยู่และมีประชาชนที่พลาดเลขมงคล ก็จะเอาเลขอดีตท่านรัฐมนตรีไปก่อนในงวดนี้ โดยงวดนี้ทุกปีจะเห็นว่าเลขมงคลจะออกทุกปี เพราะเป็นช่วงใกล้ "วันแม่" คนจึงพากันแห่ซื้อเลขมงคลดังกล่าว แม้แต่เจ้ามือหวยใต้ดินยังไม่กล้ารับ หรือรับก็จะจ่ายเพียงแค่ครึ่งเท่านั้น ส่วนเลขเด็ดที่ห้อยท้ายมาด้วยคือ 29 นั้น เป็นเลขนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 คอหวยเอามาแปะไว้กันทีเด็ด

ด้านนายชาตรี ขุนอินทร์ นายกสมาคมผู้ค้าหวยคนพิการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตอนนี้หวยมีมากขึ้น ทางกองสลากก็พิมพ์หวยเพิ่มมาอีกเป็นหวยการกุศล ทำให้หวยนั้นเกลือนเลยทีเดียว ราคาหวย คู่ละ 70.20 บาท ขายต่อให้กับพ่อค้าแม่ค้าหวยในราคาคู่ละ 74-75 บาท ก็ยังถือว่ายังได้กำไรกันอยู่พอสมควร และพ่อค้าแม่ค้าบางคนก็จะจัดการรวมทำเป็นหวยชุด ราคาก็จะได้เพิ่มขึ้นอีก เป็น 100 บาทต่อคู่เลยทีเดียว และคนก็ฮิตซื้อหวยชุดกันส่วนหวยใบเดียวก็ 80 บาท read more

จนท.พิสูจน์หลักฐาน-โยธาเข้าตรวจสอบ‘เมเจอร์ฯปิ่นเกล้า’ ดูรอยร้าว-หาสาเหตุไฟไหม้


จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ห้างเมเจอร์ซินิเพล็กซ์สาขาปิ่นเกล้า จนโรงภาพยนต์ได้รับความเสียหายทั้งหมด ต้นเพลิงเกิดที่ชั้น 3 ในโรงหนังโรงที่ 7 ก่อนลุกลามขึ้นไปที่ชั้น 4 เพลิงโหมกระหน่ำอย่างหนัก ฝ้าเพดานหลังคาบางส่วนพังลงมา ใช้เวลา 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ มีผู้บาดเจ็บสำลักควัน 2 ราย ตร.สั่งปิดพื้นที่รอเข้าตรวจพิสูจน์หาสาเหตุ โดยบริษัทเมเจอร์แจง คาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ห้างทำประกันไว้ทั้งหมด ยันไม่กระทบการดำเนินงาน และฐานะการเงินของบริษัทตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่เขตบางพลัดนำเชือกมากั้นพื้นที่โดยรอบ พร้อมติดประกาศสำนักงานเขตบางพลัด เรื่องอาคารที่อาจเป็นอันตราย ระบุว่าด้วยวันพฤหัสที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2559 เกิดเหตุเพลิงที่อาคารเมเจอร์ปิ่นเกล้าสถานที่ตั้ง 555-554/1 ถนนบรมราชชนนี แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ชั้นเพื่อใช้เป็นโรงมหรสพ-พาณิชย์-สำนักงาน จอดรถยนต์และอาคารดังกล่าวมีสภาพหรือการใช้อาจเป็นภัยอันตรายต่อบุคคลชีวิตร่างกาย หรือทรัพย์สินหรืออาจไม่ปลอดภัยจากภัยอัคคีภัยหรือก่อให้เกิดเหตุรำคาญกระทบกระเทือนต่อการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ สำนักงานเขตบางพลัดจึงขอประกาศเตือนว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารที่อาจเป็นภัยอันตรายห้ามคนที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้าไปในบริเวณอาคาร

ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณด้านหน้า ทางเจ้าหน้าตั้งศูนย์อำนวยการ ให้ผู้เช่าร้านค้าภายในอาคารเมเจอร์ ซินิเพล็กซ์ เข้าลงชื่อเพื่อจะให้เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินที่สำคัญภายในร้านของตนเอง ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่โยธาและผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยว่า อาคารดังกล่าวสามารถจะเข้าไปได้หรือไม่ เนื่องจากว่าอาคารดังกล่าวจะทรุดตัวลงมาเกรงจะไม่ปลอดภัย read more


รวบอาชญากรข้ามชาติ "ยาซูโอะ ทะซึบากิ" ปั่นหุ้น ผ่าตัดเปลี่ยนหน้ากบดานไทย

เมื่อเวลา 10.30น.วันที่ 29 ก.ค.ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชันจินดา ผบ.ตร.พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม.เจ้าหน้าที่สืบสวน สตม.พร้อมด้วย Mr.Kaisuke HOSAKA และMr.Sachio HlGASHIURA ฑูตตำรวจญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนาย นายยาซูโอะ ทะซึบากิ (Yasuo Tsubaki) อายุ 62 ปี บุคคลตามหมายจับของทางการญี่ปุ่น ในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตลาดหลักทรัพย์และอาชญากรรมทางการเงินข้ามชาติ


พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ข่าวเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจากประเทศญี่ปุ่นขอให้ติดตามตัวนายยาซูโอะ ทะซึบากิ ตัวการใหญ่แก๊งอาชญากรทางการเงินข้ามชาติรายสำคัญ เป็นอดีตนักธุรกิจและ ทนายชื่อดังช่วยทำงานให้กับบริษัท OHT ซึ่งเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องจักรชื่อดังในญี่ปุ่นทำการปั่นหุ้นของบริษัทในช่วงปี 2001-2005 จากราคา 200,000 เยน เป็นราคา 1.2-1.5 ล้านเยนต่อหุ้น จากนั้นเทขายทำให้เกิดความเสียหายต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นวงกว้างมูลค่าความเสียหายสูงถึง 12,000 ล้านเยน (หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท) เป็นข่าวใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นขนาดนั้น

ต่อมา ศาลญี่ปุ่นได้ออกหมายจับนายยาซูโอะกับพวก สมาชิกในแก๊งถูกจับกุมทั้งหมด ยกเว้นนายยาซูโอะ ที่หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว จากนั้นได้ทำการ ผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้า (Face off) จนไม่มีใครจำได้ แล้วใช้ชื่อผู้อื่นทำธุรกรรมทางการเงิน เพื่อหลบเลี่ยงการการจับกุมของเจ้าหน้าที่จนกระทั่งถูกทีมสืบสวน สตม.จับกุมได้ที่บ้านพักย่านมหาชัย จ.สมุทรสาคร


พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า ขนาดนี้ได้ประสาน กลับทางการญี่ปุ่นเพื่อยกเลิกหนังสือเดินทางของนายยาซูโอะ และ จากการตรวจสอบในระบบตรวจคนเข้าเมือง นายยาซูโอะ ได้มีการขออยู่ต่อประเภทใช้ชีวิตบั้นปลายได้ถึง 1ก.ย.59 ทาง สตม. จึงได้ทำการเพิกถอนใบอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรตาม พ.ร.บ.คนเมืองฯมาตรา 12 อนุ 7 มีพฤติการณ์เป็นภัยสังคม และจะมีการสืบสวนหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป