Thursday, June 30, 2016

โดนแล้วไง !! "น้องป้อนข้าว" อดีตพริตตี้และโปรกเกอร์หุ้นสาวสวย หลังมีพิรุธคดี "เสี่ยชูวงษ์" !!?


   ตำรวจกองปราบปราม ออกหมายเรียก นางสาวอุรชา วชิรกุลฑล อดีตโบรกเกอร์สาว ที่เกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อดีตนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เพื่อให้ปากคำในคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ภายในสัปดาห์หน้าหลังพบอยู่กับ ผู้ต้องหาในคดีระหว่าถูกจับกุมภายหลังที่ตำรวจกองปราบปราม จับพันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในข้อหาร่วมกันฆ่านายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อดีตนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัด นครราชสีมา โดยระหว่างเข้าจับตัว พบว่าพันตำรวจโทบรรยินอยู่กับ นางสาวอุรชา วชิรกุลฑล หรือ ป้อนข้าว อดีตโบรกเกอร์สาว ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ทำให้ล่าสุด พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ได้ออกหมายเรียก นางสาวอุรชา เพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติมในหลายประเด็น จากกรณีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ โดยพนักงานสอบสวนกำหนดให้ นางสาวอุรชา เข้าพบภายในวันที่ ในวันที่ 5 กรกฎาคม นี้  ซึ่งเบื้องต้น ยังไม่ได้รับการตอบกลับจาก นางสาวอุรชา ว่าจะเข้าพบพนักงานสอบสวน หรือไม่

             นางสาวอุรชา เป็นอดีตโบรกเกอร์สาว ของบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด มหาชน และบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการทำหน้าที่ดูแลการซื้อขายหุ้นให้กับนายชูวงษ์ แต่กลับเข้ามาจัดการ โอนหุ้น มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ของนายชูวงษ์ ให้นางสาวศรีธรา พรหมา แม่ของตัวเอง ก่อนจะมีการเทขายหุ้นในเวลาต่อมา และตลอดการเข้าให้ปากคำกับตำรวจกองปราบปรามใน นางสาวอุรชา ยืนยันว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง กับนายชูวงษ์ จนทำให้นายชูวงษ์ โอนหุ้นจำนวนดังกล่าวให้ อ่านเพิ่มเติม

บร๊ะเจ้า!! ดร่าม่าสนั่น "จูน แม็กซิม" เธอเอาเทปกาวปิดตรงนั้น เธอหันหน้ามากำเดาแทบไหล !???


กลายเป็นค่านิยมผิดๆ ไปซะแล้วกับการแต่งตัวออกงานประกาศรางวัลของเหล่าคนบันเทิงที่เข้าใจกันว่าโป๊หวาบหวิวไว้ก่อนดังแน่นอน และล่าสุดในงานประกาศรางวัล "Siamdara Stars Awards 2016" ก็เป็นไปตามคาดเมื่อสาว "จูน แม็กซิม" หรือ "จูน วรัญรดา" มาในคอนเซ็ปต์ชุดเทปกาวที่ลงทุนไม่ถึงร้อยบาท แต่ฟีดแบ็คกลับดังท้วมท้นกลายเป็นที่พูดถึงและโดนด่าสนั่นโซเชียล นี่แหละน้าความอยากดังของคนแต่ไม่ลงทุน ดังด้วยการโดนสังคมประนามด่ามันไม่ยั้งยืนเท่ากับการดังด้วยผลงานหรอกนะจ๊ะ สาวจูน
อ่านเพิ่มเติม

ยอมรับแล้ว !! วุ้นเส้น รับทะเลาะ ชาคริต ทำร้ายร่างกาย สาเหตุเป็นเพราะเรื่องนี้เองหรอ !??


“วุ้นเส้น” รับทะเลาะ “ชาคริต” จริง ยังไม่เลิก เผยบางช่วงเคยแยกอยู่ แจงสาเหตุเป็นเรื่องของเวลา ปัดโดนทำร้ายร่างกาย วันเกิดพาฝ่ายชายไหว้พระ พักแพลนมีลูกก่อน

หลังจากที่มีข่าวออกมาว่าทะเลาะกับสามีหนักถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลย สำหรับสาว “วุ้นเส้น วิริฒิพา” กับหนุ่ม “ชาคริต แย้มนาม” ล่าสุดเจอสาววุ้นเส้นในงาน “กินปูดูทะเล ครั้งที่ 14” เจ้าตัวได้ชี้แจงเรื่องทั้งหมดว่า..

มีทะเลาะกันบ้างค่ะ ก็เป็นช่วงประคับประครองไป ค่อย ๆ ทำให้แข็งแรงขึ้น ตอนแรกไม่คิดว่าเวลาเป็นปัญหา แต่อาจจะมีเวลาให้กันน้อยไป ไม่ได้แบบแข็งแรงขนาดนั้น ค่อย ๆ ดูกันไป อยากปรับความเข้าใจกัน เราก็ไม่ได้อยากให้เขาเปลี่ยนอะไรมาก ตอนนี้อยู่ด้วยกัน ไม่มีลงไม้ลงมือ เขาไม่เคยทำร้ายร่างกาย ปาร์ตี้ก็นานๆ ที วุ้นไม่ตกใจข่าวมาก เพราะมีเคยมีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้ปรับความเข้าใจกันแล้ว คงไม่ถึงกับทุกเรื่อง เราอยู่กับปัจจุบันมากกว่า”

“คริตเขาก็ปรับเยอะ เราคิดว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว ความรักเราสร้างกันมาแข็งแรงและยาวนาน แต่อยากทำให้มันดีขึ้น ตอนนี้อารมณ์นิ่งๆ ขึ้น ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปไม่มีทะเลาะกัน ถ้ามีเวลาก็อยากไปพักผ่อนด้วยกัน มีช่วงที่แยกกันนิ่งๆ ตอนนี้ก็ดีขึ้น มีปรึกษาเพื่อนบ้าง เพื่อนมาอยู่เป็นเพื่อนบ้าง ข่าวทำร้ายร่างกายพี่คริตก็ขำ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้เขาเข้าใจโลกมากขึ้น หลังบวชมีเหตุผลมากขึ้น อะไรก็ทำลายเขาไม่ได้ ไม่ได้เอางานมาโทษไม่มีเวลา”

“เรื่องมีลูกให้เราสองคนแข็งแรงมาก ๆ เดี๋ยวมีแน่นอน เรือนหอปล่อยให้เขาจัดการ เขาบอกจะเริ่มแล้ว พักเรื่องการมีน้อง งานก็ยังรับเหมือนเดิม เงินก็ปัญหาใหญ่ เราไม่อยากอยู่เฉย ๆ ช่วยเขาทำมาหากิน ขาเตียงก็ยังแข็งแรงดีค่ะ”

“ตอนวันเกิดเขาพาไปเที่ยวบ้าง ของขวัญตอนนี้ดูอยู่ว่าจะอยากได้อะไร เขาอยากไปเที่ยวพวกพิพิธภัณฑ์ วันนั้นพาไปวิมานเมฆ เขาแฮปปี้มาก เป็นรื่องที่เราคุยกันตั้งนานแล้วเขาไม่เคยไป ได้กล้องมาใหม่ด้วย ลงรูปหวานๆ ก็ตามรูปที่เห็น เดี๋ยวคนเข้าใจผิดก็เลยลงรูปคู่บ้าง”

Wednesday, June 29, 2016

250 ล.! ทรัพย์สินล่าสุดอดีต ส.ส.กระบี่ ‘สาคร’ก่อนถูกกล่าวหารุกป่าชายเลน

เปิดทรัพย์สิน 250 ล้าน อดีต ส.ส. ‘สาคร เกี่ยวข้อง’ ก่อนชื่อติดโผ ทช. ถูกกล่าวหารุกพื้นที่ป่าชายเลนกระบี่ พบเป็นนักธุรกิจดังในจังหวัด ถือหุ้น-เป็นกรรมการบริษัทนำเที่ยว-รีสอร์ทแอนด์สปา-ขายรถยนต์ มีที่ดิน 50 แปลง อยู่ในอ่าวนาง-ไสไทยด้วย


สาธารณชนอาจทราบไปแล้วว่า นายสาคร เกี่ยวข้อง อดีต ส.ส.กระบี่ และนักธุรกิจชื่อดังใน จ.กระบี่ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวหาว่าอาจเป็นผู้บุกรุกป่าชายเลนในพื้นที่ จ.กระบี่
กระทั่งล่าสุดเมื่อช่วง 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รองอธิบดี ทช. ได้นำชุดปฏิบัติการฉลามขาว พร้อมด้วย พ.อ.พงษ์เทพ ประกอบศุขราษฎร์ รอง ผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จ.กระบี่ พ.อ.สานิตย์ ซ้ายขวัญ จาก ศปป.4 และกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 50 นาย ไปตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลน ที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองจิหลาด ม.5 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเมื่อไปถึงพบว่า สภาพป่าสงวนถูกทำลาย กลายเป็นนากุ้งจำนวนหลายสิบบ่อ
โดยจากการรายงานข่าวของสื่อมวลชนหลายสำนัก ระบุตรงกันว่า มีบุคคลมาแสดงตนเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว โดยนำโฉนด สค.1 จำนวน 1 ฉบับ ออกเมื่อปี 2498 และโฉนดที่ดินจำนวน 2 ฉบับ ออกเมื่อปี 2549 มาแสดงหลักฐานว่าเป็นเจ้าของ ปรากฏชื่อของนายสาคร เป็นหนึ่งในผู้ครอบครองโฉนดดังกล่าวด้วย รวมประมาณ 24 ไร่เศษ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายสาคร ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2557 พบรายละเอียด ดังนี้
นายสาคร แจ้งสถานะว่า ‘หย่า’ มีบุตรยังไม่บรรลุภาวะ 1 คน
มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 250,368,998 บาท
ได้แก่ เงินฝาก 1,457,900 บาท เงินลงทุน 13,583,100 บาท ที่ดิน 208,419,556 บาท บ้าน 1 หลัง ตึก 3 หลัง 23.5 ล้านบาท รถยนต์ 9 คัน ซากรถ 2 คัน 6.8 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 2,728,441 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 14,432,168 บาท
ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีเงินลงทุน 35 ล้านบาท (บริษัท อ่าวนาง คลิฟฟ์ บีช จำกัด)
สำหรับเงินลงทุนทั้งหมดของนายสาคร มีทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่
1.บริษัท อ่าวนางแทรเวลแอนด์ทัวร์ จำกัด ถือหุ้นอยู่ 1,759,100 บาท
2.บริษัท สยาม นิสสัน มอเตอร์ กระบี่ จำกัด ถือหุ้นอยู่ 5 ล้านบาท
3.บริษัท เมืองเก่าธุรกิจ จำกัด ถือหุ้นอยู่ 125,000 บาท
4.บริษัท กระบี่เกี่ยวทรัพย์ จำกัด ถือหุ้นอยู่ 1,000 บาท
5.บริษัท ลันดาคลิฟฟ์บีช รีสอร์ทแอนด์สปา จำกัด ถือหุ้นอยู่ 6,698,000 บาท  อ่านเพิ่มเติม

นราฯเดือด! บึ้มทหารรบพิเศษดับ 1 เจ็บ 3 แฉป่วนตากใบหวังปล้นฐาน

สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงร้อนระอุในห้วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม 


โดยเมื่อเวลา 11.10 น.วันพุธที่ 29 มิ.ย.59 คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุดสันติสุข 402 ซึ่งเป็นทหารจากหน่วยรบพิเศษ ขณะเดินทางกลับจากปฏิบัติงานด้านจิตวิทยามวลชนในพื้นที่บ้านปูโงะ หมู่ 1 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยใช้รถกระบะสีดำเป็นพาหนะ
          ทั้งนี้ เมื่อรถแล่นถึงบริเวณปากทางเข้าโรงเรียนดารุลฮิกมะฮ์ คนร้ายได้ใช้วิทยุสื่อสารกดจุดชนวนจนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น แรงระเบิดทำให้รถกระบะเสียหลักตกข้างทาง มีกำลังพลเสียชีวิต 1 นาย คือ จ.ส.อ.เอกภพ พัดภู่ อายุ 33 ปี ทำหน้าที่พลขับ
          ส่วนผู้บาดเจ็บ 3 นาย ทราบชื่อคือ พ.ต.กฤตย มีบุญ อายุ 44 ปี อาการสาหัส ส.อ.อำนวย ผมงาม อายุ 39 ปี และ ส.อ.จิระวัฒน์ มูลคำ อายุ 29 ปี สำหรับระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ถังแก๊ส น้ำหนักระเบิดประมาณ 20 กิโลกรัม
 ส่วนที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อคืนวันอังคารที่ 28 มิ.ย. คนร้ายไม่ต่ำกว่า 20 คน พร้อมอาวุธสงครามครบมือ บุกโจมตีฐานปฏิบัติการ กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 2 หมวดป้องกันชายแดนที่ 4 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านตะเหลียง หมู่ 4 ต.เกาะสะท้อน โดยคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงเปิดทาง แต่ระเบิดพลาดเป้า ไปตกข้างกำแพงฐาน ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่สามารถตั้งหลักยิงตอบโต้คนร้าย
          ต่อมาคนร้ายซึ่งแบ่งออกเป็นหลายชุด ได้พยายามบุกเข้าไปในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งอยู่ติดกับฐานปฏิบัติการ และนำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ถังน้ำยาดับเพลิง น้ำหนักระเบิด30 กิโลกรัม ไปวางริมกำแพงรั้วโรงพยาบาล ก่อนจุดชนวน เพื่อหวังให้กำแพงฐานปฏิบัติการพัง จะได้บุกเข้าไปด้านใน แต่โชคดีที่ระเบิดไม่ทำงาน  
          ขณะที่คนร้ายอีก 1 ชุดได้ลอบจุดชนวนระเบิดที่ประกอบใส่กล่องเหล็กจำนวน 2 ลูก วางไว้บริเวณโคนเสาไฟฟ้าริมถนน ห่างจากฐานปฏิบัติการประมาณ 200 เมตร แรงระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่น 3 ต้น กระแสไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน ก่อนที่คนร้ายอีก 1 ชุดจะโปรยตะปูเรือใบ เพื่อสกัดกั้นการเข้าสนับสนุนของเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อไม่สามารถโจมตีฐานได้ และระเบิดลูกใหญ่ที่สุดไม่ทำงาน ทำให้คนร้ายล่าถอยไป ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อ่านเพิ่มเติม

ฟ้าผ่ากลางมิสแกรนต์ !! เมื่อนางงามสระแก้วไม่ปฏิบัติตามกฎ ออกมาแฉกองประกวด โดนแล้วงานนี้ !!?


หลังจากเพิ่งประกาศผลไปหยกๆ สำหรับเวทีการประกวดนางงาม มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016  ล่าสุดได้เกิดเหตุดราม่าขึ้นแล้ว หลังเพจ มิสแกรนด์สระแก้ว ได้ออกมาโพสต์จดหมายชี้แจงปลด นางสาวเมทิกา ลือพักตรา พ้นจากมิสแกรนด์สระแก้ว เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย และไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบ กิจกรรม และเงื่อนไขของกองประกวดได้ จึงสมควรให้ รองชนะเลิศอันดับสอง นางสาว นนทิชา ฉัตรทอง เข้ารับตำแหน่งแทน

โคตรเลว !! ประกาศยกทารกให้คนอยากมีลูก เพราะโดนพ่อกับแม่ทำสิ่งนี้ !??


ได้รับการแจ้งว่า มีการโพสต์ประกาศหาคนรับเลี้ยงเด็กในโลกออนไลน์ โดยผู้โพสต์ได้นำภาพเด็กหญิงหน้าตาน่ารักมาโพสต์ลงในกลุ่มที่เกี่ยวกับคนอยากมีลูก พร้อมด้วยข้อความว่า "มีใครสนใจอยากมีลูกผู้หญิงบ้างคะ เด็กหน้าตาน่ารักมากค่ะ แม่ติดยา สามีทิ้ง ไม่พร้อมค่ะ ใครสนใจอยากเลี้ยงโทรมานะคะ ขอคนอยากมีลูกจริงๆๆ ค่ะ" พร้อมด้วยลงเบอร์ติดต่อกลับ โดยได้ลงประกาศไว้ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา 
ทั้งนี้ มีการแสดงความคิดเห็นจำนวนมากในเรื่องดังกล่าว ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย พร้อมทั้งแนะนำให้ส่งเด็กให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หรือ สถานสงเคราะห์เพื่อจัดหาบ้านให้เด็กอย่างถูกต้องและปลอดภัยกับเด็กต่อไป โดยหญิงรายดังกล่าวที่นำเรื่องนี้มาโพสต์ได้ระบุว่า เด็กคนดังกล่าวเป็นลูกของน้องสาว ซึ่งได้ทิ้งลูกชายวไว้ให้เลี้ยงก่อนหน้านี้แล้วคนหนึ่ง ส่วนตนเองนั้น มีลูกอยู่แล้วสองคน ก็มีภาระต้องดูแลลูกเช่นเดียวกัน ต่อมา เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ล่าสุด หญิงรายดังกล่าวก็ได้เข้ามาแจ้งความคืบหน้าว่า ได้ส่งเด็กให้ตาของเด็กไปเลี้ยงแล้วและลบโพสต์ดังกล่าวทิ้ง 

แทบน็อค!! กระบะแห่นาคโชว์เบิร์นยาง พอออกตัวเท่านั้นแหละ นาคกลายเป็นแบบนี้ (ชมคลิป)


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 มิ.ย.) ในโลกออนไลน์ได้มีวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากได้ดูคลิปวี ดีโอที่มีชื่อว่า "กระบะซิ่ง นาคซวย!!! ตกรถ"  โดยผู้ใช้ชื่อว่า GREEN Chanel ซึ่งผู้โพสต์ระบุว่าคลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์แห่นาคที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสงคราม

เผยให้เห็นภาพรถกระบะที่มีนาคและชาย 2 คน ได้ขึ้นไปนั่งอยู่หลังรถกระบะ โดยมีการบรรเลงแตรวงอย่างสนุกสนาน ซึ่งหลังจากรถกระบะได้เร่งเครื่องเพื่อที่จะทำการเบิร์นยางจนควันขโมง ก็ได้ออกตัวอย่างรวดเร็ว จนทำให้นาคและชาย 2 คน ตกลงมาที่พื้นถนนอย่างแรง

ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้อยู่ในเหตุการณ์ ได้มีผู้เข้าไปอุ้มชายคนหนึ่งที่สลบคาที่อยู่กับพื้น ไปขึ้นรถกระบะเพื่อนำส่งโรงพยาบาล สำหรับนาคที่กำลังจะเข้าพิธีบวชนั้น ผู้โพสต์ระบุว่าไม่ทราบว่าได้เข้าพิธีบวชหรือไม่ เพราะออกมาก่อน

บร๊ะเจ้า!! สาวหน้าตาดีนั่งรถไฟฟ้า พอเธอหยิบสิ่งนี้ออกจากกระเป๋า ทำเอาคนมองทั้งรถ เธอทำแบบนี้ได้ไหงเนี่ย !???


เวลานั่งรถไฟฟ้าจะเห็นผู้หญิงแต่งหน้าบนรถบ่อยๆ คนถ่ายคลิปนี้พบว่าสาวน้อยน่ารักตรงหน้า น่าจะกำลังล้วงกระเป๋าหาเครื่องสำอางค์ แต่คาดไม่ถึงว่าวินาทีต่อมา สิ่งที่เจ้าหล่อนถืออยู่คือ "สิ่งนี้"

ที่แท้เธอก็หิวนี่เอง เอาล่ะกินกล้วยถือเป็นเรื่องปกติ

แต่ว่า เธอยังมีแตงโมชิ้นเบิ้มอยู่ในกระเป๋าอีก! ผู้โดยสารคนอื่นก็ประหลาดใจไปตามๆกัน อ่านเพิ่มเติม

ใจสลาย !! แฟนสาวนักบิน ฮ.ตก โพสถึงสามีแบบนี้ทำเอาขนลุกตามๆกัน !??


สุดอาลัย กรณีข่าวสะเทือนใจ เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศที่ตกบริเวณ พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง รอยต่อ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง และบ้านพลา อ.แก่งหาแมว จ.จันทบุรี เป็นเหตุให้ต้องสูญเสียนักบินพร้อมช่างเครื่องเสียชีวิตทั้ง 3 คน คือ น.ต.พิสิษฐ์ เตชะเสน ร.อ.อลงกรณ์ จันทร์กระจ่าง และ พ.อ.อ.วิสุทธิ์ พุทรักษา

ความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลล่าสุด น้องหมวย แฟนสาวของ แม็ก หรือ ร.อ.อลงกรณ์จันทร์กระจ่าง หนึ่งในนักบินที่เสียชีวิต ก็ได้ออกมาเปลี่ยนภาพโปรไฟล์เป็นภาพคู่กับแฟนหนุ่มนักบิน พร้อมกับโพสต์ภาพข้อความไลน์ที่ส่งหาแฟนหนุ่มเป็นครั้งสุดอย่างสุดซึ้ง


ระบุว่า “แม็กหมวยรักแม็กมากนะคะ หลับให้สบาย ไม่ต้องห่วงหมวยกับป๋าหรอกค่ะ หมวยจะเข้มแข็งให้ได้อย่างแม็ก เราจะรักกันไปจนตาย เกิดทุกภพทุกชาติหมวยขอเป็นภรรยาของแม็กคนเดียว หมวยจะอยู่อย่างคนที่ภาคภูมิใจในฐานะภรรยานักบิน ผู้ทำหน้าที่เพื่อชาติ จนวาระสุดท้ายของชีวิต แม็กต้องเป็นเทวดาอยู่เป็นสรวงสรรค์คอยดูหมวย คอยปกป้องหมวยนะคะ” ขณะที่ชาวเน็ตก็แห่เข้ามาให้กำลังใจและแสดงความเสียใจกับแฟนสาวเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ทางด้านเฟซบุ๊กส่วนตัวของ ร.อ.อลงกรณ์ จันทร์กระจ่าง ก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยครอบครัวได้แจ้งกับเฟซบุ๊กว่า เป็นบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว ในหน้าเฟซบุ๊กจึงปรากฎคำว่า Remembering (ระลึกถึง) นำหน้าชื่อเฟซบุ๊กขึ้นมา เพื่อระลึกถึงนักบิน

แทบช็อก!! เจอเมียน้อยกลางถนน เลยโดนเมียหลวงจัดหนักมาก สภาพล่าสุดเธอกลายเป็นแบบนี้ (ชมคลิป)


เดอะ มิร์เรอร์ ได้เผยแพร์คลิปเหตุการณ์เมียหลวงลงมือทำร้ายเมียน้อยอีกครั้งที่เมืองจีน โดยเหตุเกิดที่มณฑลอานฮุยของจีน เป็นเหตุการณ์หญิงหลายคนกำลังรุมทำร้ายหญิงสาว ซึ่งคาดว่าเป็นเมียน้อยของสามีหญิงคนหนึ่งในกลุ่ม โดยช่วยกันถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวเหยื่อจนเปลือยท่อนบน และพยายามจะถอดกางเกง นะหว่างนั้นก็ตะโกนด่าเหยื่อสาวตลอดเวลา ไม่แคร์สายตาของคนที่เดินผ่านไปมา และยืนมุงดูเหตุการณ์

สุดท้ายมีหญิงสูงอายุคนหนึ่งเดินเข้าไปพยายามจะห้ามปราม ไม่ให้กลุ่มของเมียหลวงทำร้ายเหยื่อสาว ก่อนที่กลุ่มเมียหลวงจะพากันแยกย้ายไป ปล่อยให้เหยื่อสาวนั่งกอดเข่าอยู่บนถนนด้วยความอับอาย  อ่านเพิ่มเติม

ช็อกทั้งถนน !! เห็นกะเป๋าดิ้นได้ เลยจอดรถพอเปิดดูถึงกับผงะ เกือบตายทั้งคณะแล้วไง !??


ระทึก! พลเมืองดี ช่วยเหลือหญิงสาวถูกยัดใส่กระเป๋าเดินทางทิ้งกลางสวนสาธารณะ ( มีคลิป)
กลายเป็นเรื่องน่าตกใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์สุดระทึก  เมื่อมีสาวจีนรายหนึ่งถูกคนร้ายข่มขืน และจับยัดใส่ในกระเป๋าเดินทาง ลากมาที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในมณฑลหูหนาน แต่ยังเคราะห์ดีได้รับความช่วยเหลือไว้ทัน
โดยผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เผยว่า มีคนร้ายเป็นชายได้ลากกระเป๋าเดินทาง เข้ามาในสวนสาธารณะ แต่จู่ๆก็มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังออกมาจากในกระเป๋าดังกล่าว  ชายคนดังกล่าวจึงรับวางกระเป๋าทิ้งไว้แล้วกระโดดลงทะเลสาบในสวนสาธารณะเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังค้นหา และถูกจับได้ในเวลาต่อมา
จากเหตุการณ์ผู้บันทึกขณะกำลังช่วยเหยื่อรายนี้ออกมาจากกระเป๋า โดยมีชายรายหนึ่งถอดเสื้อให้เธอใช้ปกปิดร่างกาย และมีผู้หญิงที่อยู่ในบริเวณนั้นมาช่วยประคองเธอให้ออกมาจากกระเป๋า อ่านเพิ่มเติม

อยู่กับผัวมา 15 ปีไม่เคยเจ้าชู้ หลังจากรับแม่บ้านพม่าหน้าตาดี แค่คืนนั้นคืนเดียวชีวิตเปลี่ยนไปตลอดกาล !???


สวัสดีค่ะ เราแต่งงานกับสามีมาเป็นเวลา 15 ปีกว่า โดยพื้นฐานครอบครัวเค้าเป็นคนดี รักครอบครัว มีทานเหล้าบ้าง ไม่สูบบุหรี่ ไปเที่ยวกับเพื่อน ส่วนเรื่องผู้หญิงแทบไม่มีให้ได้ยิน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เรามีลูก จำเป็นต้องรับแม่บ้านเข้ามาช่วยเรื่องงานบ้านและดูแลการซักผ้ารีดผ้า (ปกติเราจะทำเอง) เลยหาแม่บ้านพม่ามา ได้เด็กผู้หญิงอายุประมาณ 19-20 ปี มา 1 คน รูปร่างดี สูงโปร่ง ผิวค่อนข้างคล้ำ หน้าตาค่อนข้างดี ทำงานก้อใช้ได้ เราก้อเอ็นดูเพราะเล่นกับน้องได้ (รับมาหลังจากคลอดน้องแล้ว) มาทำงานกับเราได้ประมาณ 5-6 เดือน เนื่องจากเค้าเพิ่งมาจากพม่า พาสปอร์ตก้อยังไม่มี พูดไทยก้อไม่ค่อยได้ สามีเราจะว่าตลอดว่ารับมาทำไม ทำงานไม่ได้เรื่องเลย เราก้อพยายามสอน

จนมาวันนึงเรา ต้องพาน้องไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด ก้อเลยให้สามีอยู่บ้านกับแม่บ้าน (เนื่องจากเคยรับแม่บ้านมาก่อนหน้านี้แล้ว 1 คน แล้วกลับบ้านไป เคยปล่อยให้อยู่แล้วไม่มีอะไร ประกอบกับสามีไม่มีประวัติเจ้าชู้เลยไว้ใจ) กลับมาทุกอย่างก้อปรกติ แม่บ้านคนนี้ก้อทำตัวปรกติทุกอย่าง แต่มักจะเล่นทะลึ่งกับลูกเรา เช่น เอาลิ้นตัวเองไปถูกลิ้นของน้อง พอเราเห็นเข้าเราก้อตำหนิ จนกระทั่ง 2 วันที่ผ่านมา แม่บ้านเค้าทำท่าทางบึ้งตึง ลูกเราซนชอบรื้อของ เค้าก้อทำท่าไม่พอใจ มากระชากลูกเรา จนกระทั่งน้องมาเห็นเข้า เค้าเลยอุ้มน้องออกมากแล้วมาเล่าให้เราฟัง เพราะตอนนั้นเราเข้าไปทำกับข้าวในครัวอยู่ เราเลยถามว่าเป็นอะไร เค้าบอกเค้าจะออกพรุ่งนี้ เราเห็นท่าไม่ดีมาทำไม่ดีกับลูกเรา เราเลยไม่ว่าอะไรอยากออกก้อออก เราไปบอกสามีเราเค้าก้อโกรธว่าทำไมทำอย่างนี้กับน้อง จนวันที่เค้าออก เค้าออกจากบ้านเราแต่เช้า เรากับสามีและน้องยังไม่ตื่น แม่เราเลยเปิดประตูให้ เราก้อไม่ติดใจอะไร เค้าอยากไปก้อไป

ช่วง สาย มีคนที่พาแม่บ้านคนนี้มาซึ่งรู้จักกับเรา เค้าโทรมาให้เราไปคุยที่บ้านเค้า อยู่ไม่ไกลกันเรื่องแม่บ้านคนนี้ เราเลยไปหาเค้าเค้าบอกว่าที่แม่บ้านออกเนื่องจากสามีเราเข้าไปปลุกปล้ำเค้า ช่วงที่เราไม่อยู่ (ตอนไปต่างจังหวัด) เรานี้ถึงกับหน้าชา เกิดอะไรขึ้น สอบถามกับแม่บ้านว่าพี่เค้าทำยังไง แม่บ้านบอกว่า ตอน 5 ทุ่ม พี่ผู้ชาย (สามีเรา) ให้ขึ้นไปนวดที่ห้อง เลยเข้าไปนวดให้ จากนั้นพี่เค้าก้อปิดไฟแล้วทำอะไรกับเค้า เราถามว่าทำไมไม่บอก เค้าบอกว่าอาย แล้วยังบอกอีกว่า พี่ผู้ชายจะเลี้ยงดูดูแล สุดท้ายคือตัวเองกลัวจะท้อง เนื่องจากพี่ผู้ชายได้เค้าไป 3 ครั้ง โอเคเรากลับบ้านมาแบบงงงง เกิดอะไรขึ้น กลับมาถามสามีเค้ายอมรับว่าจริง เรานี้ไปไม่ถูกเลย แต่สามีเราบอกว่าเด็กสมยอม ไม่งั้นจะมีอะไรกันถึง 3 ครั้ง ได้อย่างไร (แม่บ้านเราตัวสูงกว่าสามีเรามาก) อีกอย่างเค้าบอกว่า ก่อนมีอะไร เด็กบอกมีได้ ไม่เป็นไร

เราถึงกะอึ้ง สติหลุด จะทำยังไงต่อดี สุดท้ายมาจบความคิดที่ ต้องทนอยู่เพื่อลูก เพราะยังเล็กอยู่ อีกอย่างเราเองก้อต้องพึ่งสามี เพราะเป็นแม่บ้านเนื่องจากหลังแต่งงานสามีได้แต่ให้ช่วยงานที่บ้าน ไม่รู้เราคิดถูกรึเปล่า ที่เราทนอยู่อย่างนี้เพื่อลูก  อ่านเพิ่มเติม

Tuesday, June 28, 2016

ตากใบวุ่น! "บึ้ม-ยิง-โปรยตะปู" – หมายจับผู้ต้องหาคาร์บอมบ์โก-ลก

สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงร้อนระอุ โดยเมื่อคืนวันอังคารที่ 28 มิ.ย.59 เกิดเหตุความไม่สงบหลายจุดในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ขณะที่ตำรวจขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายแรกในคดีคาร์บอมบ์สุไหงโก-ลก 


 ช่วงค่ำของวันอังคารที่ 28 มิ.ย. คนร้ายก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความไม่สงบหลายจุดใน อ.ตากใบ เท่าที่มีรายงานเบื้องต้นคือเหตุคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงใส่ฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดน ตั้งอยู่ที่บ้านตะเหลียง หมู่ 4 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ ทำให้เกิดระเบิดขึ้น 1 ครั้ง จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มซ้ำ จนเกิดการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มติดอาวุธ ทั้งนี้ คนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบเป็นระยะทางยาว เพื่อสกัดกั้นการส่งกำลังสนับสนุนของเจ้าหน้าที่ด้วย
          นอกจากนั้นยังมีรายงานเสียงระเบิดดังขึ้น 2-5 ครั้ง คาดว่าในพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ แต่ยังไม่มีรายงานความสูญเสีย
บึ้มชุดลาดตระเวน รปภ.ครูสาหัส 1 ที่ปะนาเระ
          ก่อนหน้านั้น เมื่อวันจันทร์ที่ 27 มิ.ย. เวลา 10.10 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดดักสังหาร ชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4215 (ชป.ร้อย ทพ.4215) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 (ฉก.ทพ.42) ขณะลาดตระเวนเดินเท้าเพื่อรักษาความปลอดภัยครูโรงเรียนบ้านบางหมู หมู่ 1 ต.น้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี โดยขณะเดินอยู่ข้างรั้วโรงเรียน คนร้ายได้กดจุดชนวนระเบิดเสียงดังสนั่น ทำให้ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ธนากร สวนแดง อายุ 27 ปี ชาวต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนและขาซ้ายหัก เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ออกหมายจับผู้ต้องหาคนแรกคาร์บอมบ์โก-ลก
          ด้านความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแบบคาร์บอมบ์ บนถนนข้างโรงเรียนบ้านสุไหงโก-ลก กับกำแพงฐานหมวดเฉพากิจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ นราธิวาส 33 ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
          ล่าสุดตำรวจได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายแรกแล้ว คาดว่าเป็น นายซูกีมัน กูบารู หรือ ลุกมัน อายุ 43 ปี เป็นชาว อ.สุไหงดี จ.นราธิวาส โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บันทึกภาพ นายซูกีมัน ขณะขับรถกระบะซุกระเบิดเข้าไปจอดยังจุดเกิดเหตุ ก่อนเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนมาจอดรอหลบหนีไป
          สำหรับผู้ต้องหาอีก 1 คนที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับเป็นรายต่อไป คือบุคคลที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปรอรับนายซูกีมันเพื่อหลบหนี แต่การแกะรอยค่อนข้างยาก เพราะสวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้า
          มีรายงานว่า นายซูกีมัน น่าจะหลบหนีข้ามฝั่งไปกบดานในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว โดยเป็นการหนีในวันเกิดเหตุทันที มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ด้วย
          ส่วนรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีบรอนซ์เงิน ติดแผ่นป้ายทเบียนปลอม ที่คนร้ายนำมาบรรทุกระเบิด แล้วนำไปจุดชนวนเป็นคาร์บอมบ์นั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นรถโจรกรรม เจ้าของเดิมเป็นหญิง ชาว จ.ปัตตานี ทะเบียนที่ถูกต้องคือ บต 7406 ปัตตานี แจ้งหายไว้ขณะนำรถไปจอดบริเวณหาดนราทัศน์ อ.เมืองนราธิวาส เมื่อกว่า 2 ปีก่อน และน่าจะเป็นรถคันเดียวกับที่ร่วมขบวนการก่อเหตุคาร์บอมบ์ที่ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล สาขาเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 10 เม.ย.58 แต่เปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีบรอนซ์ อ่านเพิ่มเติม


พบ บ.ทอผ้า‘พายัพ ชินวัตร’ลูกหนี้ ธพว. เหลือแค่ที่ดินเปล่า-รง. เครื่องจักร 78 ล.‘ล่องหน’

เบื้องหลังหลักประกัน'บ.ชินวัตรไทย'ของ'พายัพ'ลูกหนี้ ธพว. ราคาลดฮวบจาก 93 ล.เหลือ 15 ล. เหตุเครื่องจักรถูกขนย้ายเกลี้ยง ตัว รง. โดนรื้อถอนราบเป็นหน้ากลอง เหลือแค่ที่ดินเปล่า ไฉน!แบงก์ไม่สอบเอาผิด ก่อนประมูลขาย? 


สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานก่อนหน้านี้แล้วว่า กรณีคณะกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ได้อนุมัติขายลูกหนี้กองหนี้ภาคตะวันออก จำนวน 30 ราย มูลหนี้ 694 ล้านบาท ให้แก่บริษัท บริหารสินทรัพย์ ศรีสวัสดิ์ จำกัด (บบส.ศรีสวัสดิ์) ในราคา 210.75 ล้านบาท และ 1 ใน 30 ราย คือ บริษัท ชินวัตรไทย จำกัด ของนายพายัพ ชินวัตร โดย ขายไปเพียง 10 ล้านบาท ขณะที่ ยอดหนี้ทั้งสิ้นเกือบ 100 ล้านบาท และมีข้อสังเกตว่า หลักประกันที่เป็นที่ดิน โรงงาน และเครื่องจักร ที่ธนาคาร ฯ เคยประเมินราคาไว้กว่า 93 ล้านบาท เมื่อครั้งปล่อยสินเชื่อเมื่อปี 2545 เมื่อประเมินราคาใหม่ในปี 2557 ก่อนขายลูกหนี้รายนี้กลับลดลงเหลือ 15.5 ล้านบาท ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนหรือไม่ ?
ล่าสุด พบว่า ก่อนการประมูลขายหลักประกันของลูกหนี้ ธพว. รายนี้ ในส่วนที่เป็นอาคารโรงงาน รวม 9 รายการ และเครื่องจักร รวม 293 รายการ มูลค่าเกือบ 80 ล้านบาท ถูกรื้อถอน และขนย้ายออกไปจนหมด สิ้นสภาพของบริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งโรงงาน บริษัท ชินวัตรไทย จำกัด ที่มีมูลค่านับร้อยล้านบาท ไม่หลงเหลือให้เห็นว่า เคยเป็นโรงงานขนาดใหญ่มาก่อน ส่วนที่พอจะมองเห็นอยู่บ้าง ก็เพียงถนนคอนกรีตเก่า ๆ ที่ไม่ถูกทุบออกไป (ดูภาพประกอบ)  อ่านเพิ่มเติม

ความหวัง..ความฝัน..ชีวิตจริง บุตรหลานแรงงานต่างด้าว หลัง'ซูจี'เยือนไทย

"หนูเรียนอยู่ในโรงเรียนไทย (ร.ร.วัดกำพร้า) และอยู่ในวงดุริยางค์ของโรงเรียน ชอบเล่นดนตรีและร้องเพลง อยากเป็นนักดนตรีนักร้อง ... ผมอยากเป็นตำรวจครับ ผมอยากเป็นทหาร .. พวกหนูอยากเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย" ถ้อยคำจากเยาวชนในมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN)

เป็นที่ทราบกันดีว่าในการเดินทางมาประเทศไทย ของ นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐสาธารณรัฐเมียนมา มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน หรือ LPN ได้ร่วมกับ เครือข่ายความร่วมมือแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย และ คณะกรรมการสมานฉันท์คุ้มครองสิทธิแรงงาน  จัดเวทีและแถลงข่าวเรื่อง "เสียงจากแรงงานข้ามชาติชาวพม่าถึงนางออง ซาน ซูจี เพื่อสุข สันติภาพ และความยุติธรรมในประเทศไทย" โดยเปิดโอกาสให้แรงงานข้ามชาติที่มาเข้าร่วมกิจกรรมเขียนแสดงความคิดเห็น และความต้องการที่อยากจะสะท้อนให้ นางออง ซาน ซูจี ได้รับทราบ เบื้องต้น สรุปออกมาได้  5 ข้อ ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างในสังคมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ในสังคมออนไลน์ ที่เกิดกระแสด้านลบเป็นอย่างมาก ซึ่งข้อเรียกร้องทั้งห้า ได้แก่
1.ขอให้รัฐบาลเมียนมาร่วมกับรัฐบาลไทยเปิดจดทะเบียนแรงงานข้ามชาติและผู้ติดตามรอบใหม่
2.ขอให้ประสานกับทางการไทย ติดตามและบังคับใช้กฎหมายให้นายจ้างไทย จ่ายค่าจ้างตามข้อกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท
3.ขอให้ประสานงานกับทางการไทย เพื่อให้สิทธิแรงงานเมียนมาที่มีบัตรสีชมพู สามารถเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ได้ โดยไม่ถูกจำกัดการเดินทางอยู่ในจังหวัดที่ทำงาน เท่านั้น
4.ขอให้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างทางการไทยกับเมียนมา ในการนำเข้าแรงงานเมียนมา มาทำงานในไทย โดยผ่านระบบรัฐต่อรัฐ ไม่มีกระบวนการนายหน้าเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์
5.ขอให้ทางการไทยดูแลบุตรหลานแรงงานเมียนมาให้ได้รับการศึกษาและสาธารณสุข รวมทั้ง สามารถเทียบโอนวุฒิการศึกษาระหว่างไทยกับเมียนมาได้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 - 26 มิ.ย. 2559 ที่ผ่านมา สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศไทย จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ 'การรายงานข่าวด้านสิทธิเด็ก' ที่สนับสนุนโดย องค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ประเทศไทย ที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม มี นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผอ.สถาบันอิศรา กล่าวเปิดการสัมมนา มี สื่อมวลชนสำนักต่าง ๆ เข้าร่วมทั้งหมด 23 คน 
และมี Mrs.Kathryn Bice ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำข่าวสิทธิเด็ก จากประเทศออสเตรเลีย เดินทางมาร่วมเป็นวิทยากรหลัก ให้ความรู้เรื่องกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิเด็ก เทคนิคการสัมภาษณ์แหล่งข่าวเด็ก เทคนิคและข้อควรระวังในการใช้ภาพข่าวที่เกี่ยวกับเด็ก จริยธรรมในการทำข่าวสิทธิเด็ก รวมถึง การลงพื้นที่เรียนรู้กระบวนการทำข่าวสิทธิเด็ก
"ให้คิดว่าตนเองเป็นเด็ก และคิดว่า หากมีสื่อ ฯ มาทำกับเราแบบนี้ เราจะรู้สึกอย่างไร ดังนั้น ให้คิดถึงผลประโยชน์สูงสุดที่ตัวเด็กจะได้รับ" เป็นสาระสำคัญที่วิทยากรผู้เชี่ยวชาญการทำข่าวสิทธิเด็กชาวออสเตรเลีย กล่าวย้ำในทุกหัวข้อที่เป็นวิทยากร 
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในหัวข้อการเสวนา เรื่อง 'ปัญหาการใช้แรงงานเด็กในพื้นที่สมุทรสาคร' มี นายกฤช สุขก่ำ นักวิชาการแรงงงาน หัวหน้าฝ่ายตรวจแรงงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.สมุทรสาคร และ นายสมพงศ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (Labour Rights Promotion Network Foundation : LPN) จ.สมุทรสาคร ร่วมเป็นวิทยากร 

นายกฤช สุขก่ำ นักวิชาการแรงงาน กล่าวว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ เนื่องจาก ข้อมูลระบุว่า จ.สมุทรสาคร มีอัตราการใช้แรงงานเด็กจำนวนมาก เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะ แรงงานบังคับ ซึ่งเป็นแรงงานเด็ก ทั้งนี้ จ.สมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่มีโรงงานอยู่มากถึง 6,000 กว่าแห่ง ด้วยงบลงทุนกว่า 7 แสนล้านบาท และยังมี สถานประกอบการที่ไม่ได้จดทะเบียนอีกประมาณ 10,000 แห่ง และสถานประกอบการขนาดเล็ก (เรียกอีกอย่าง ว่า 'ล้ง') อีกประมาณ 700-800 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ทำการแปรรูปสัตว์น้ำขั้นต้น ด้วยเหตุผลที่ว่า จ.สมุทรสาคร มีเรือประมงจอดเทียบฝั่งเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศด้วย 
อีกทั้ง ระบุด้วยว่า "ประเทศไทยประสบปัญหาการขยายตัวของประชากร และกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยในอีกไม่ถึง 10 ปี โดย ได้แบ่งแรงงานต่าวด้าวใน จ.สมุทรสาคร ออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ 1.แรงงานชาวลาว ประมาณ 8,000 กว่าคน โดย แรงงานเหล่านี้มีความถนัดในงานด้านบริการ รวมถึง งานรับใช้ในบ้าน 2.แรงงานชาวกัมพูชา ประมาณ 10,000 กว่าคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเเรงงานก่อสร้าง และลูกจ้างตามร้านค้าส่งต่าง ๆ 3.แรงงานชาวพม่า ประมาณ 220,700 คน เป็นแรงงงานที่มีจำนวนมากที่สุดในจังหวัด มีทั้งแรงงานกรรมกรก่อสร้าง จนถึง แรงงานโรงงาน รวมทั้งสิ้น 440,000 กว่าคน คิดเป็น 44.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ประชากรชาวไทยมีประมาณ 500,000 กว่าคน" 
ส่วน นายสมพงษ์ ผอ.มูลนิธิ LPN ระบุว่า เข้าใจที่คนไทยบางกลุ่ม แสดงความไม่พอใจ กรณีข้อเรียกร้องประเด็นสิทธิมนุษยชนแรงงานข้ามชาติ แต่หากคิดย้อนในมุมกลับกัน คนไทยที่ไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็อยากได้รับค่าแรงเท่ากับชาวอเมริกัน อยากได้รับหลักประกันสุขภาพ ให้ลูกหลานแรงงานไทยได้รับการศึกษา และสามารถเดินทางไปไหนมาไหนก็ได้อย่างเสรี่ ซึงเราสามารถทำได้ เนื่องจาก เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน เป็นกติกาสากลของโลกที่มีการเคลื่อนย้ายแรงงานเป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ประเทศไทยยังไม่ได้ดำเนินการให้สิทธิแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติ ให้ได้รับสิทธิอย่างที่ควรได้รับ ทั้งที่ มีกฎหมายให้สิทธิ
จากการลงพื้นที่ทำข่าว บริเวณมูลนิธิ LPN หมู่บ้านมหาชัยเมืองทอง จ.สมุทรสาคร ในวันที่ 25 มิ.ย. 2559 นายสมัคร ทัพธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิ LPN กล่าวถึงกรณีการให้การศึกษาแก่บุตรหลานแรงงานต่างด้าว ว่า ทางมูลนิธิได้พยายามทำกิจกรรมร่วมกับผู้ปกครองของเด็ก ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลบุตรหลาน เนื่องจาก ทำงานในโรงงาน ทำงานเป็นกะ ซึ่งบางคนทำงาน 6-7 วันต่อสัปดาห์ สำหรับแรงงานที่มีบุตร บ้างก็จะปล่อยให้เด็กอยู่ในห้อง บ้างก็ให้ไปทำงานตามล้งแปรรูปสัตว์น้ำต่าง ๆ อย่างไรก็ดี ทางมูลนิธิได้มีการประสานงานกับทางผู้อำนวยการโรงเรียนวัดศรีสุทธาราม (วัดกำพร้า) เพื่อให้การศึกษากับเด็ก ๆ เหล่านี้ และมีการจัดเวรให้กับเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ฯ ในการรับ-ส่งเด็กไปโรงเรียน และกลับบ้าน


โชว์ภาพ รง.-เครื่องจักร บ.พายัพ ชินวัตร 78 ล. NPL ธพว.หายปริศนา!ก่อนประมูลขาย


เปิดภาพถ่ายโรงงาน-เครื่องจักร ครบชุด มัด บ.ชินวัตรไทยของ ‘พายัพ  ชินวัตร’ มูลค่า 78 ล.  ลูกหนี้เงินกู้  NPL  ธพว. หายปริศนา ก่อน ธนาคารฯประมูลขาย บบส.ศรีสวัสดิ์ เฉพาะที่ดินเปล่าเพียง 10 ล. พร้อมข้อสังเกต 5 ประการ


รณีคณะกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ได้อนุมัติขายลูกหนี้กองหนี้ภาคตะวันออก จำนวน 30 ราย มูลหนี้ 694 ล้านบาท ให้แก่ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ศรีสวัสดิ์ จำกัด ( บบส.ศรีสวัสดิ์) ในราคา 210.75 ล้านบาท และ 1 ใน 30 ราย คือ บริษัท ชินวัตรไทย จำกัด ของนายพายัพ ชินวัตร โดยขายไปเพียง 10 ล้านบาท ขณะที่ยอดหนี้ทั้งสิ้นเกือบ 100 ล้านบาท และมีข้อสังเกตว่าหลักประกันที่เป็นที่ดิน โรงงาน และเครื่องจักร ที่ธนาคารฯเคยประเมินราคาไว้กว่า 93 ล้านบาท เมื่อครั้งปล่อยสินเชื่อเมื่อปี 2545 เมื่อประเมินราคาใหม่ในปี 2557 ก่อนขายลูกหนี้รายนี้ กลับลดลงเหลือ 15.5 ล้านบาท


และพบข้อมูลว่า ก่อนการประมูลขาย หลักประกันของลูกหนี้ ธพว.รายนี้ ทรัพย์สินในส่วนที่เป็นอาคารโรงงานรวม 9 รายการ และเครื่องจักรรวม 293 รายการ มูลค่าเกือบ 80 ล้านบาท ถูกรื้อถอนและขนย้ายออกไปจนหมดสิ้น สภาพของบริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งโรงงานบริษัท ชินวัตรไทย จำกัด ที่มีมูลค่านับร้อยล้านบาท เหลือเพียงถนนคอนกรีตเก่า ๆ เท่านั้น (อ่านประกอบ:พบ บ.ทอผ้า‘พายัพ ชินวัตร’ลูกหนี้ ธพว. เหลือแค่ที่ดินเปล่า-รง. เครื่องจักร 78 ล.‘ล่องหน’)  อ่านเพิ่มเติม

วู้ดดี้ เผยหมดเปลือก !! เปิดภาพงานแต่งสุดโรแมนติก ความจริงแต่งเมืองไทย !??


 เปิดภาพงานแต่งงาน วู้ดดี้ มิลินทจินดา เผยหมดเปลือกเรื่องชีวิตรัก บอกความจริงแต่งที่ภูเก็ต และแต่งมาแล้ว 2 ปีครึ่งแล้ว

            เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนประเด็นแซ่บ ที่เรียกเสียงฮือฮาไปทั่ว สำหรับข่าวที่ วู้ดดี้ มิลินทจินดา ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือ Time Out ฉบับล่าสุดว่า เขานั้นได้แต่งงานแล้วกับแฟนหนุ่มที่คบหากันมา 9 ปี ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา งานนี้ทำเอาหลายคนอึ้งกันไปตาม ๆ กัน และอยากจะรู้ว่าเรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร แต่งงานกันจริงหรือไม่ หรือสร้างกระแสข่าวหรือเปล่า

ล่าสุดเช้าวันที่ 28 มิถุนายน 2559 วู้ดดี้ ก็ขอเปิดเรื่องราวทั้งหมดผ่านรายการตื่นมาคุย ให้ทุกคนได้ทราบถึงข่าวดีดังกล่าว โดยเริ่มเข้ารายการ ทางพิธีกรร่วมอย่าง อ้น ศรีพรรณ และแจ็ค แฟนฉัน ก็แซวว่า...หมุนแหวน (บนนิ้วนางข้างซ้าย) ใหญ่เลยนะ ทำเอาวู้ดดี้ยิ้มเขิน พร้อมกับบอกว่า เมื่อวานทำงานที่พม่า สายเข้าเยอะมาก เลยขอพูดถึงประเด็นนี้หน่อยแล้วกัน เพราะหนังสือได้ลงข้อมูลผิดบางส่วน ก่อนอื่นต้องเท้าความก่อน หนังสือไทม์เอ้าท์ได้มาสัมภาษณ์นานแล้ว พูดถึงเรื่องราวการแต่งงาน โดยถามตนว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้วรู้สึกอย่างไรกับคำนี้ อยากจะแต่งงานหรือไม่ ซึ่งตนนั้นก็ตอบว่าไม่คิดจะแต่ง แต่เมื่อถามถึงตอนนี้ล่ะ ตนก็เลยบอกว่า ตนแต่งไปแล้ว เขาก็มองบนนิดนึง และก็ถามต่อว่า แต่งอะไรยังไง ทั้งนี้ในหนังสือระบุว่า แต่งที่นิวยอร์ก แต่จริง ๆ ตนแต่งที่ภูเก็ต เมื่อ 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา..

วู้ดดี้ กล่าวต่อว่า จุดนี้แหละที่ทำให้อยากออกมาบอก เรื่องสถานที่การแต่งงาน เพราะหลายคนนึกว่าไปแต่งงานที่นิวยอร์กมีการจดทะเบียนอะไรหรือไม่ เพราะประเทศดังกล่าวนั้นเสรี ตนต้องบอกเลยว่าไม่ได้จด วันนั้นผ่านมาแล้ว 2 ปีครึ่ง ตนไม่จำเป็นต้องสร้างกระแสแต่อย่างใด ตนคบกันมา 9 ปี และชีวิตของคนก็สัมผัสมาทุกอย่าง บวชก็บวชมาแล้ว วันนี้เราเจอคนที่เรารัก ไม่ว่าเพศใด ก็มีสิทธิ์ที่จะแต่งงาน ส่วนงานแต่งนั้นก็จัดกันภายใน มีเพื่อน ๆ ที่เรารักร่วมเป็นสักขีพยานเท่านั้น และตนก็ไม่คิดว่าจะมีใครให้ความสนใจอะไรเยอะขนาดนี้ เลยอยากให้พูดให้มันจบ อ่านเพิ่มเติม

ระทึก!! สาวหน้าตาดีปวดท้องหนักคารถ จนท.รุดช่วย ผลออกมาเกิดขาด เพราะอะไรมาดูกัน !???


เมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 27 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิทยุตำรวจ 191 ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือหญิงปวดท้องครรภ์ ที่บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก อ.เมืองพิษณุโลก จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ช่วยกู้ภัยข่าวภาพ จัดส่งเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องการทำคลอด รุดไปให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

บริเวณเกิดเหตุ พบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ แคป ทะเบียน บว-5197 พิษณุโลก จอดอยู่ชิดฟุตปาธ พบมีหญิงสาวตั้งครรภ์ นอนปวดท้องอยู่ภายในรถ โดยมีญาติที่เดินทางมาด้วยดูแลอยู่ด้วยความเป็นห่วง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้เร่งทำการช่วยเหลือทำคลอด จนหญิงสาวสามารถคลอดบุตรเป็นเพศหญิงได้อย่างปลอดภัย อ่านเพิ่มเติม

เอาแล้วไง !! หลัง “บรรยิน” และ “น้องป้อนข้าว” คารีสอร์ท ล่าสุดโดนหนักแบบนี้แล้ว !!?


จากคดีที่สังคมให้ความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง คดี “เสี่ยชูวงษ์” อดีตผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ชนกับต้นไม้เป็นเหตุให้เสียชีวิต จากการตรวจสอบพบความผิดปกติหลายอย่างจนทางครอบครัวของเสี่ยชูวงษ์ขอให้มีการตรวจสอบ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรมช.พาณิชย์ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ได้นำกำลังบุกจับจับกุมพ.ต.ท.บรรยินได้ที่รีสอร์ททาวน์ สแคว สวีทที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขณะอยู่กับน.ส.อุรชา หรือน้องป้อนข้าว วชิรกุลฑล สาวโบรกเกอร์คนสนิท พร้อมนำตัวมาแถลงข่าวให้ทราบต่อไป

โคตรแซบ !! เปิดใจสาวอีสานกระเป๋ารถเมล์สาย 8 ตัวจริง ไม่แพ้สายไหนเลยทีเดียว!!?


 กลายเป็นคลิปที่ใครได้เห็นก็ต้องยิ้ม เมื่อเฟสบุ๊ค Aung Thananis Watthanachaiumpon ได้แชร์คลิปเปิดใจถึง ชีวิตผู้สาวกระเป๋ารถเมล์ ‪#‎สาย8‬ ที่ต้องเผชิญกับสิ่งต่างๆ มากมายในแต่ละวัน ด้วยน้ำเสียงและความน่ารักทำให้รับรองว่าวันนี้ คนรอขึ้นรถเมล์สายนี้เพียบแน่นอน อ่านเพิ่มเติม

รวยมหาศาล !! พาส่องเครื่องบินส่วนตัว “น้าแมน เทคมีเอาท์” ขับเล่นเป็นงานอดิเรก พอเห็นราคาเท่านั้นแหละ ช็อกไหมสาวๆ !??


ต้องบอกเลยว่าเป็นหนุ่มฮอตสุดๆ ไปแล้วในช่วงเวลานี้ สำหรับ “น้าแมน take me out” ชายหนุ่มที่ถูกสาวๆ กดดับไฟใส่ตั้งแต่รอบแรกไปถึง 27 คน เหลือแค่เพียง 3 สาว 3คนเท่านั้น ซึ่งเหตุนี้ก็เป็นเรื่องที่ฮือฮาอย่างมาก โดยทางน้าเน็ก พิธีกรรายการ ได้บอกผ่านสื่อว่า ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน อีกทั้งยังโดนเหล่าสาวๆ วิจารณ์ได้กระแทรกจิตใจเหลือเกิน ทำให้เขากลายเป็นชายหนุ่มที่ถูกพูดถึงอย่างมากเมื่อรายการได้ทำการออนแอร์ออกไป  แต่ถึงอย่างไรก็ตาม น้าแมน ได้ประกาศให้ได้ฟังเป็นที่ชัดเจนในรายการแล้วว่า เขามีงานอดิเรกคือการขับเครื่องบิน โดยเบื้องต้นทางทีมงานทราบมาว่าเครื่องบินลักษณะดังกล่าวที่น้าแมนขับพื้นฐานราคาจะอยู่ที่ประมาณ 70 ล้านบาท ทั้งนี้เราจึงอยากจะขอนำเสนอภาพมุมต่างๆ ขณะที่น้าแมนขับเครื่องบิน และพาส่องเครื่องบินของเขา ว่าจะน่าประทับใจขนาดไหน ลองไปชมภาพกันเลย อ่านเพิ่มเติม

กระจ่าง!! จากปาก "สเปียร์มินต์" หลังจากเดทดูใจกับ "น้าแมน" ตอนนี้กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว !???


กลายเป็นอีกหนึ่งสาวฮ็อต หลังรายการเทคมีเอาท์ไทยแลนด์ ซีซั่น 10 สัปดาห์ที่ 12  ออกอากาศไปเมื่อไม่สัปดาห์ที่แล้ว และเกิดกระแสดราม่า เมื่อผู้ร่วมรายการสาวๆต่างพากันปิดไฟใส่ "น้าแมน" พินิจนันท์ บัวมหาศักดิ์ ถึง 27 คน ทั้งๆที่เพิ่งแนะนำตัวในตอนแรกเท่านั้น แถมยังวิจารณ์น้าแมนเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกต่างๆมากมาย แต่เหตุการณ์พลิกผันเมื่อปรากฏว่าแท้จริงแล้ว น้าแมนคนนี้มีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา นอกจากจะเป็นผู้กำกับหนังแล้วยังมีงานอดิเรกคือการขับเครื่องบิน จนชาวเน็ตวิจารณ์สาวๆว่าตัดสินคนจากภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ในบรรดาสาวๆทั้ง 30 คน มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เปิดไฟรอน้าแมน และได้ไปออกเดตร่วมกันในตอนจบ คือสาว สเปียร์มินต์ ผู้นี้นี่เอง
ล่าสุด สาวสเปียร์มินต์ยังออกมาตอบคำถามคลายข้อสงสัย ที่มีหลายคนถามมาว่าหลังจากจบรายการแล้ว ตอนนี้ได้คบกับน้าแมนต่อหรือไม่อย่างไร ซึ่งสาวสเปียร์มินต์ก็ตอบชัดเจนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Tananya Swanghabun ว่า "ในรายการเค้าจะให้ลองเดทกันนะคะ ถ้าใช่เราก็สานต่อแค่นั้นเองค้าบผม สำหรับกรณีมิ้น น้าแมนก็เป็นพี่ที่น่ารักคนนึงเลยค่ะ ไม่ได้คบกันน้า" และเมื่อมีคนถามว่าตัวจริงน้าแมนน่ารักหรือไม่ สเปียร์มินต์ตอบว่า "น่ารักค่า เท่มากๆ เก่งๆ" เอาเป็นว่าตอนนี้สาวสเปียร์มินต์เคลียร์ทุกคำถามแล้ว แฟนๆคงหายสงสัยไปได้ 

เอาแล้ว !! คุณหญิงไก่มีหนาว เมื่อทนาย พาลูกจ้างเก่าที่โดนใส่ร้ายมาทำแบบนี้ เป็นไงละ!??


เรียกได้ว่าหลักฐานปรากฎขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับคดีที่ไฮโซชื่อดังที่ชื่อว่า "คุณหญิงไก่" แจ้งความจับเด็กสาววัย 19 ปี ในข้อหาลักทรัพย์ถึง 10 ล้านบาทจนกลายเป็นข่าวที่คนสนใจทั้งประเทศ ล่าสุดนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้าน การบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้นำตัว นางสาวประภาวรรณ อายุ 19 ปี และ นางสาวมีน บุตรสาวของ นางสุกัลญา อดีตลูกจ้างที่ถูกคุณหญิงไก่ ไฮโซชื่อดัง แจ้งดำเนินคดีฐาน "ลักทรัพย์นายจ้าง" ในพื้นที่ สน.ประชาชื่น เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติการณ์ของนายจ้างกับพวกที่บังคับให้ นางสุกัลญา เขียนคำรับสารภาพด้วยลายมือ ซึ่งเป็นภาษากฎหมาย ทั้งที่ผู้ต้องหาไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมายเลย
โดยที่คุณทนายสงกานต์ได้กล่าวอีกว่า
"จากการตรวจสอบกับ สน.ประชาชื่น พบว่ามีลูกจ้างที่ถูกไฮโซชื่อดัง ดำเนินคดีทั้งสิ้น 5 ราย ซึ่งมีบางรายได้ถูกศาลตัดสินจำคุกแล้ว และตนเตรียมรื้อคดีเพื่อให้ความเป็นธรรม ส่วนคดีของ นางสุกัลญา นั้น ศาลอาญาจะนัดตรวจหลักฐานในวันที่ 2 ก.ย.นี้ ตนก็จะไปช่วยดูคดีด้วย
อย่างไรก็ตาม ตนจะยื่นเรื่องร้องเรียนให้กองปราบปราม ทำการตรวจสอบเชิงลึกเกี่ยวกับนายจ้างรายนี้ ทั้งเรื่องของการชอบอ้างตัวว่าเป็นคุณหญิง ความเกี่ยวข้องกับคดีเครื่องราชฯ และอดีตตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 112 ด้วย"

สุดอาลัย !! ลำเลียงศพ 3 นักบินถึงรพ.ที่ชลบุรีแล้ว พิธีรอรับที่ดอนเมือง อย่างสมเกียรติ!!?


เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. นายสัมพันธ์ ผลโพธิ์ หน.อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ลำเลียงศพน.ต.พสิษฐ์ เตชะเสน นักบิน รอ.อลงกรณ์ จันทร์กระจ่าง นักบิน และพ.อ.อ.วิสุทธิ์ พุทธรักษา ช่างประจำเฮลิคอปเตอร์ ลงมาถึงบริเวณบ้านหนองระกำ และได้มีการเปลี่ยนแผนนำศพทั้งทหารทั้งสามนายไปขึ้น ฮ.ของกองทัพอากาศ ที่เตรียมรออยู่ที่ลานจอดฮ.หนองเจ็กสร้อย ต.พวา อ.แก่งหางแมว จันทบุรี เพื่อเคลื่อนศพไปยัง กทม.เพื่อบำเพ็ญกุศลต่อไป ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและญาติพี่น้องรวมถึงเพื่อนทหารที่มารอรับ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แยกหนองเจ๊กสร้อย ต.สามพี่น้อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี พี่น้องประชาชนมารอส่งขบวนศพ 3 นักบิน ทอ. ซึ่งเสียชีวิตจากฮ.ตกพื้นที่ ป่าในอุทยานแห่งชาติ เขาชะเมา-เขาวง ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ขบวนจะเคลื่อนออกไปถนนสุขุมวิท ตรงไปสนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง  

มีการเคลื่อนขบวนศพทางรถยนต์ด้วยรถตู้ของรพ.จำนวน 3 คัน มุ่งสู่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติร์ จ.ชลบุรี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แกลง ระยอง ร่วมนำขบวนเคลื่อนศพ เพื่อส่งต่อไปยัง รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เพื่อทำการตกแต่งศพและดำเนินการต่อไปเคลื่อนย้ายศพไปยังสนามบินอู่ตะเภาเพื่อขึ้น ฮ.ของกองทัพอากาศสู่สนามบินดอนเมือง กทม.ต่อไป      ก่อนหน้านี้ เวลา 18 40 เครื่องบินลำเลียง แบบ ที่ 8 (C130 ) หมายเลข 7 ได้ถึงสนามบิน อู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง บริเวณหน้าฝูงบินอิสระปฎิบัติราชการสนาม 106 กองทัพอากาศเพื่อเตรียมพร้อมเคลื่อนย้ายร่าง 3 บิน ฮ.ตก โดยมีคณะผู้บังคับบัญชา พระภิกษุ พ่อแม่ญาติพี่น้องของทหารที่เสียชีวิต และกองทหารเกียรติยศจำนวน 1 กองร้อยมารอเตรียมพร้อมรับศพ 3 ทหารกลับไปดำเนินพิธีทางศาสนาที่ กทม. อ่านเพิ่มเติม

Monday, June 27, 2016

พ่อช็อก !! ลูกสาวหน้าตาดีโดนยิงตาบอด 2 ข้าง ถึงกับใจสลายเมื่อรู้ความจริงบางอย่าง ใจสลายตา�

'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์' รุดช่วยเหลือสาวหน้าตาดี เคราะห์ร้ายถูกโจ๋ชักปืนยิงใส่หน้านึกว่าคู่อริ ทำตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง ดับความฝันอยากเป็น'ทหาร-แอร์ฯ'ด้านแฝดพี่พร้อมเสียสละตา

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 59 บนเครือข่ายสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ก ชาวเน็ตต่างพากันแห่เข้าไปให้กำลังใจหญิงสาวรายหนึ่ง หลังแฟนเพจเฟซบุ๊ก “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ได้ โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความระบุว่า “ยิงหนูทำไม?” เล่าเหตุการณ์ด้วยว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 59 ที่ผ่านมา หนุ่มบิณฑ์ได้เข้าไปช่วยเหลือครอบครัวของ น.ส.ณัฏฐ์ธมน ธนไตรสิทธิ์ อายุ 19 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.6 ซึ่งทำให้เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์ ตามที่ปรากฏแล้วนั้น
ทั้ง นี้เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 58 ที่ผ่านมา หญิงสาวรายนี้ได้นั่งซ้อนรถมอเตอร์ไซด์ของเพื่อนออกไปทานข้าวในระแวกบ้าน ซึ่งขณะเลี้ยวซ้ายบริเวณสี่แยกแห่งหนึ่ง ได้ขับผ่านกลุ่มวัยรุ่นที่ จอดรถมอเตอร์ไซด์อยู่ข้างทาง แต่ไม่ทันไรมีรถมอเตอร์ขับตามมาข้างหลัง และตะโกนคำว่า “เฮ้ย” ทำให้เธอต้องหันไปมอง ปรากฏว่าชายที่เป็นคนซ้อนได้วิ่งลงจากรถ มุ่งตรงมาพร้อมกับชักปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ยิงเข้าใส่ใบหน้าของเธออย่างจัง ระยะ 5 เมตร ทำให้กระสุนโดนเข้าที่ใบหน้าและลำคอ 4 เม็ดทันใดนั้นทุกอย่างที่เธอเห็นเป็นสีเทาทันที ก่อนที่ร่างของจะล่วงลงพื้น เพื่อนได้จับศรีษะน้องไว้ได้ และมีอาการตกใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงรีบส่งตัวไปโรงพยาบาลทันที

“ตอน นั้นอาการของน้อง 50-50 ทางรพ.ไม่สามารถผ่าตัดให้น้องได้ จึงต้องส่งตัวมาให้อีกรพ. ผ่าตัดให้น้อง น้องรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นานกว่า 3 สัปดาห์ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้อง คือ ตาขวา หมอต้องควักออก ส่วนตาซ้ายบอดสนิท กรามก็ต้องมัดเอาไว้ คอน้องก็ถูกเจาะตอนช่วงผ่าตัด ทุกวันนี้พูดก็ไม่ เวลาพูดต้องเอามือมาอุดที่เจาะเอาไว้ และ อีก 2 เดือนน้องก็จะจบ ม.6 น้องฝันอยากจะเป็นทหาร อยากเป็นแอร์ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันหมดสิ้นแล้ว น้องนอนร้องไห้ทุกคืน ยังทำใจไม่ได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทันเร็วมาก จากสาเหตุแค่ว่า ยิงผิดตัว คิดว่าคนขับคือคู่อริ แต่น้องต้องมารับกรรม” แฟนเพจ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ระบุ อ่านเพิ่มเติม

โอโห!! นางฟ้าชัดๆสาวสวยน่ารักที่นอนหลับในรถทัวร์ ชาวเน็ตตามสืบหากันไปทั่ว จนเจอตัวจริง��

กลายเป็นกระแสฮือฮาไปทั่วอินเตอร์เน็ต เมือ่เว็บไซต์หนึ่งของจีนได้โพสต์ภาพของสาวสวยคนหนึ่ง ซึ่งเธอกำลังนอนหลับอยู่บนรถทัวร์ แต่ด้วยใบหน้า เส้นผม ที่ดูแล้วสวยราวกับเจ้าหญิงนิทรา ทำให้ภาพของเธอถูกแชร์ทั่วโลกโซเชียลทันที และอำนาจของโลกโซเชียลก็มีจริง! เพราะระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ทำให้ชาวเน็ตพบต้นตอของสาวสวยคนนี้แล้ว


สืบทราบมาว่า เธออาศัยอยู่ที่ฮ่องกง ชื่อของเธอคือ Nina ผู้มียอดติดตามในเฟซบุคกว่า 40,000 คน แถมยังมีแฟนเพจเป็นของตัวเองด้วย คาดว่าเธอน่าจะไม่ใช่สาวสวยธรรมดา แต่น่าจะเป็นสาวเซเลปในฮ่องกง อ่านเพิ่มเติม

จำได้ไหม !! ย่ายิ้ม หญิงที่อยู่กลางป่าคนเดียว 40 ปี ล่าสุดย่าเป็นแบบนี้แล้ว !??


ย่ายิ้ม คลิปที่สร้างความประทับใจให้กับชาวเน็ต แชร์สนั่นในโลกออนไลน์ กับเรื่องราวชีวิตจริงของย่ายิ้ม หญิงชราวัย 88 ปี ที่อาศัยอยู่กลางป่าเพียงลำพังนานกว่า 40 ปี
ด้วยความที่ไม่มีสิ่งสวยงามด้านวัตถุ แต่มีความงามทางด้านจิตใจ ย่ายิ้มสร้างฝายชะลอน้ำ 16 ฝาย ปลูกต้นไม้กว่า 9,900 ต้น และยังคงทำอยู่อย่างต่อเนื่อง ดำเนินตามแนวพระราชดำริ ทำให้ย่ายิ้มเป็นผู้ที่สวยจากภายใน และเป็นแบบอย่างกับใครต่อใครหลายคน ที่ตระหนักถึงคุณค่าของความดี เมื่อทุกคนเป็นคนดี สังคม ประเทศก็จะดี
คลิปย่ายิ้ม เป็นไอเดียการสร้างความจดจำที่ดีให้กับแบรนด์หนึ่ง เสริมสร้างสังคมให้ตระหนักถึงการทำความดี จากเรื่องจริงของย่ายิ้ม สร้างเพื่อเป็นของขวัญแด่คนไทยที่มีในหลวงเป็นตัวอย่างแห่งอัจฉริยะบุคคลผู้นำแห่งการสร้างความดี อ่านเพิ่มเติม

ช็อกแป็ป !! "แตงโม" ไม่สนโตโน่ เผยไลน์คุย "เทพพิทักษ์" แบบนี้ทำเอาคนเชียร์เป็นแถว !??


วันที่ 27 มิ.ย. ที่ สตูดิโอ Creatimage สุขุมวิท 71 แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างมาฟิตติ้งละคร “The Extra วงการร้ายวงการรัก” ถึงเรื่องที่ แพท-ณปภา ตันตระกูล ได้ขึ้นไอจีขอบคุณนักร้องหนุ่ม โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หลังจากต่อสายตรงมาขอโทษและเคลียร์เรื่องที่มีแฟนคลับของหนุ่ม “โตโน่” เข้ามาต่อว่าสาว “แพท” โดยลามไปถึงคุณแม่ ทำให้ดาราสาวคอมเมนต์ชี้แจงกลับถึงสถานะความสัมพันธ์กับหนุ่ม “โตโน่” จนกลายเป็นดราม่า

แตงโม กล่าวว่า “เรื่องที่แพทกับโน่เคลียร์กันแล้วนั้น ตรงนี้เป็นเรื่องของเขาเพราะโมเป็นคนนอกไม่ได้เกี่ยวกับเขาสองคน แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่มีการทำความดี น่ารักๆ แบบนี้หมายถึงว่ามีการขอโทษขอโพย โมว่ามันเป็นมิตรภาพที่ดีที่มันควรจะเป็น ภาพและข้อความที่แพท ลงขอบคุณโน่ในไอจีมีเพื่อนส่งมาให้ดู วินาทีที่เห็นก็โอเคเลย เขาน่ารักเลยที่ออกมาทำแบบนั้น เพราะโม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าไม่ทำแบบนั้นจะออกมาในรูปแบบไหน เขาก็ต้องทำแบบนั้นแหละในการที่จะแสดงความจริงใจและน้ำใจไมตรีต่อกัน เขาก็ยืนยันว่าเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน ฉะนั้นการทำแบบนี้ก็เป็นอะไรที่ถูกที่ควรแล้ว น่ารักดีค่ะ”

“ถามว่าน้อยใจมั้ยที่เขาขอโทษกันแต่ไม่มาขอโทษโม อย่างที่บอกไปคราวที่แล้วว่าโมจะไม่คิดอะไรอีกแล้ว ตอนนี้ก็เฉยๆ มาก ไม่ต้องไปคาดหวังอะไรกับใครอีก แล้วก็กลับมาอยู่กับตัวเองและขยันทำงาน แต่เชื่อว่าเดี๋ยวต่างฝ่ายก็ต้องคำถามของกันและกันไปตลอดชีวิตอยู่เรื่อยๆ”

แอบงงไหม ว่า ก่อนหน้าหนึ่งวันยังดูเหมือนจะไม่พอใจกันอยู่ แต่มาอีกวันก็ขึ้นว่าดีและเข้าใจกันแล้ว แตงโมกล่าวว่า “อารมณ์ของตัวเขาโมคงตอบแทนไม่ได้เลยแหละเพราะมันไม่เกี่ยวกับโมแล้วจริงๆ ค่ะ”

ถามถึงเรื่อง “เทพพิทักษ์ แอสละ” บอกว่าชื่นชอบแตงโมมาก ดาราสาวกล่าวว่า “รู้จักกันเป็นการส่วนตัวและก็มีคุยๆ กันอยู่บ้าง มีไลน์กันด้วยค่ะ พอดีว่าโมกับเขาเล่นหนังด้วยกัน ทุกคนที่เจอก็ชื่นชอบเขาอยู่แล้วเพราะเขามีความน่ารัก แล้วก็ตอนนี้เขาก็เป็นคนดังในโลกโซเชียลฯ ด้วย เรียกว่าเป็นเน็ตไอดอลที่มีความสุภาพ ตอนแรกโมก็ขอเขาถ่ายรูป หลังจากนั้นพอร่วมงานกันก็มีไลน์กรุ๊ปเลยได้ติดต่อกัน แล้วก็มีโอกาสได้คุยเปิดใจหลายอย่างกับเขา หมายถึงว่าตัวเขาเป็นคนที่มาปรึกษาโมมากกว่า ไม่ใช่โมไปปรึกษาเขานะคะ ถึงแม้ว่าเขาจะมีพี่พชร์ (อานนท์) คอยดูแลอยู่แล้ว แต่บางครั้งเขาก็ยังวางตัวในรูปแบบของการทำงานยังไม่แข็งแรงพอในการที่อยู่ในวงการ เพราะเขาค่อนข้างเป็นคนซื่อๆ ใสๆ ก็ยังมีผวาผู้ใหญ่ มีกลัวโน่นนี่นั่น ฉะนั้นก็จะต้องช่วยเขาละลายพฤติกรรมในการอยู่ร่วมกันว่ามันไม่น่ากลัวขนาดนั้น ที่สำคัญคืออย่าลืมตัว โมก็จะคอยบอกเขาเรื่อยๆ เพราะตัวเขาชอบบอกว่าท้อ ท้อในเรื่องความเป็นอยู่ในกรุงเทพฯ ที่มันค่อนข้างวุ่นวายด้วย มันไม่ได้สะดวกสบายเหมือนตอนอยู่ต่างจังหวัด” อ่านเพิ่มเติม

ด่วนสดๆร้อนๆ !! นำตัว"ผู้ใหญ่บ้านฆ่าข่มขืน น้องสโนว์" ขึ้นศาล ล่าสุดออกมาแบบนี้ !??


ด่วน!! นำตัว"ผู้ใหญ่บ้าน" สีถานฆ่า "น้องสโนว์" ขึ้นศาล  แม่เชื่อผลกรรมใกล้คืนสนอง!!
ความคืบหน้าคดีคนร้ายทำร้ายร่างกายน.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือ น้องสโนว์เพื่อหวังข่มขืน แต่เหยื่อต่อสู้จึงถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่ใช้เวลาถึง 102 วัน ในการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจับกุมตัวนายกฤติเดช ระเวงวรรณ  ผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ที่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์  แต่ทางด้านผู้ต้องหาปฏิเสธ กระทั่งอัยการ ยื่นฟ้องคดีอาญา ต่อนายกฤติเดช ระเวงวรรณ ซึ่งตกเป็นจำเลย ฐานความผิดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญใช้กำลังให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย นำไปส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด วันนี้  27 มิ.ย. 59 เจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ ได้ควบคุมตัว  นายกฤติเดช ระเวงวรรณ  ผู้ใหญ่บ้านสีถานออก จากเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์  เมื่อช่วงเช้านำตัวไปยังห้องควบคุมผู้ต้องหาภายในศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อนเข้าสู่ขบวนการของศาล วันนี้เป็นการเบิกตัวผู้ต้องหามาสอบคำให้การว่าจะให้การรับสารภาพหรือไม่ ซึ่งเป็นการเข้าสู่ขั้นตอนของศูนย์สมานฉันท์และสันติวิธีานผู้ต้องหามีท่าทีที่นิ่งเฉย และยังไม่ยอมพูดจากับใคร

เนื่องจากเป็นคดีอาญา โทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต ซึ่งหากผู้ต้องหาจะให้การรับสารภาพหรือไม่รับสารภาพก็ตาม ก็จะเข้าสู่ขบวนการพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามจำเลยไม่ประสงค์ที่จะเข้าสู่ขบวนการสมานฉันท์กับผู้เสียหาย ศาลจึงเลื่อนไปนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 นี้ อ่านเพิ่มเติม

จำได้ไหม!! สาว 16 โดนดักตบ อัดคลิปแฉหวังจะให้ออกจากโรงเรียน ล่าสุดคนตบโดนแบบนี้แล้วนะ !???


(26 มิ.ย.) น.ส.นลินรัตน์ อายุ 37 ปี พร้อมด้วยหลานสาว น.ส.มนต์ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับ ร.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรเสม็ด เนื่องจากวัยรุ่นชื่อ น.ส.เตย เป็นคู่อริได้พาพรรคพวกมาประมาณ 10 คน มาดักรอ น.ส.มนต์ซึ่งมาทั้งหมด 4 คน ซึ่งใส่ชุดนักเรียน ที่บริเวณตลาดบาร์ซ่า โดย น.ส.เตย ได้แต่งชุดธรรมดาเข้ามาจิกผมและตบตีอย่างรุนแรง พร้อมตะโกนบอกตลอดเวลาให้ยอมแพ้ โดยมีเพื่อนสาวของ น.ส.เตยพยายามถ่ายคลิปไว้ประมาณเกือบ 1 นาที

หลังจากนั้นได้นำไปโพสต์ในโลกโซเชียล โดยหวังว่าจะเกิดความเสียหายกับ น.ส.มนต์ และโรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่งใน อำเภอเมืองชลบุรี ที่ น.ส.มนต์ ศึกษาอยู่ และมุ่งหวังจะให้ น.ส.มนต์ถูกไล่ออกจากโรงเรียน ซึ่งการโพสต์ดังกล่าวทำให้ น.ส.มนต์เสื่อมเสียชื่อเสียง นอกจากนี้ยังเป็นการทำร้ายร่างกายอีกด้วย จึงได้มาแจ้งความดำเนินคดีในฐานทำร้ายร่างกาย ส่วนการทำผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์จะให้โรงเรียนพาณิชยการ ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีต่อไป โดยทางตำรวจจะได้ประสานคู่กรณีมาสอบสวนต่อไป

น.ส.นลินรัตน์ ป้าของ น.ส.มนต์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น เคยมีการทะเลาะกัน มาแล้วครั้งหนึ่งบริเวณชายหาดบางแสน และได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรแสนสุข คิดว่าจะเลิกรากันไปแล้ว แต่ที่ไหนได้ยังไม่ยอม และยังมาดักรอหลานสาวและลงมือทำร้ายร่างกายอีกด้วย ที่สำคัญยังมีเป้าหมายอยากให้หลานสาวของตัวเองออกจากโรงเรียน จึงได้มาแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ความจริงไม่น่าจะมีปัญหาเพราะบ้านก็อยู่ใกล้ๆกัน

น.ส.มนต์กล่าวว่า ความจริงเขาอยากให้ตนเองออกจากโรงเรียน จึงได้โพสคลิปวิดีโอ เพื่อให้ตนเองและโรงเรียนเสียหาย จะได้ถูกไล่ออก โดยเน้นมาทำร้ายช่วงที่กำลังแต่งกายชุดนักเรียน จึงได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.เตย เพื่อไม่ให้มาทำร้ายตนอีก อ่านเพิ่มเติม

โอโห !! เปิดตัวสาว ของน้าแมน“น้าแมน” Take Me Out!! แท้จริงเธอไม่ธรรมดา บอกเลยพีคสุดๆ!!?


ต้องบอกเลยวินาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเธอคนนี้ เพราะเธอเป็นอีกสาวที่ตอนนี้สังคมโลกออนไลน์ต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมากสำหรับ “น้องสเปียร์มิ้น” สาวหน้าสวยยิ้มหวานที่เปิดไฟรอหนุ่ม “น้าแมน” โดยที่ไม่มีข้อคิดเห็นขัดแย้งจากเธอเลย แถมเธอยังบอกว่า ไม่ตัดสินคนภายนอกและชอบที่น้าแมนดูเป็นคนเอนเตอร์เทน  และเราก็ได้ทราบมาว่า

เมื่อล่าสุดเราพบเฟซบุ๊คส่วนตัวเธอ และที่น่าตกใจคือ เธอได้ทำงานตั้งแต่เธอยังเป็นนักศึกษา ซึ่งเธอทำงานเป็นสาวเออีบริษัทอีเว้นท์ชื่อดังเลยจ้า **เออี = Account Executive หมายถึง ผู้บริหารงานลูกค้านั่นเอง** รู้แบบนี้แล้วบอกเลยว่าประวัติเธอดีเริ่ดจริงๆ แถมยังขยันทำงานหาเงินตั้งแต่ยังเรียนอีกด้วย


โคตรดี !! แท็กซี่ใจบุญ" รับส่งผู้พิการฟรีขอบคุณ ล่าสุดได้ผลบุญดีๆแบบนี้ !??


 วันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ชาวโซเชียลแห่แชร์เรื่องราวดีๆของ นายสุวรรณฉัตร พรหมชาติ โชเฟอร์แท็กซี่ใจบุญที่รับ-ส่งผู้ป่วยพิการฟรีไม่คิดค่าบริการ ที่เพิ่งได้รับมอบเก้าอี้ไฟฟ้าติดตั้งบนรถแท็กซี่ของตัวเอง จากนายณัฐวุฒิ บุญประสิทธิ์ เจ้าของอู่ ส.รุ่งโรจน์ยนต์ และศิษย์เก่าอุเทนถวายรุ่น 61 ที่เห็นถึงความยากลำบากในการทำงานเพื่อสังคมของนายสุวรรณฉัตร

ล่าสุด ที่เฟซบุ๊ก Suwannachat Phromchat ของแท็กซี่ใจบุญ ยังเปิดเผยเรื่องราวประทับใจอีกว่า วันนี้ "ต๊อด" ปิติ ภิรมย์ภักดี นักธุรกิจทายาทเบียร์สิงห์ ได้บริจาครถยนต์คันใหม่ เพื่อนำมาช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้พิการแทนรถคันเดิมที่ใช้งานมาแล้ว 7 ปี

โดยแท็กซี่ใจบุญระบุว่า "กราบขอบพระคุญ คุณต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี ที่เมตตาบริจาครถป้ายแดง โดยสั่งจองไว้แล้ว กำลังตกแต่งเป็นรถแท็กซี่ เพื่อมาช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้พิการ อัมพฤกษ์ อัมพาต นอนติดเตียง นั่งรถเข็น หรือพิการตลอดชีวิต เพื่อทดแทนรถคันเดิมที่ใช้มา 7 ปีกว่าแล้ว ทุกๆบุญ ในทุกๆวันที่ข้าพเจ้าได้ทำมา 21 ปี ขอให้คุณต๊อดและครอบครัว ทุกคนทุกท่าน สุขภาพแข็งแรง ชีวิตมีแต่ความสุขความเจริญครับ กราบขอบพระคุณอย่างสูงที่สนับสนุนในการทำความดีเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมครับ ซาบซึ้งใจตื้นตันใจเป็นที่สุดครับ" อ่านเพิ่มเติม

หลอนหนัก !! ชาวบ้านลืออาถรรพ์เขาวงกตบังตา ฮ.ทหาร บอกควรทำแบบนี้ถึงจะเจอ !??


กรณีการค้นหาเฮลิคอปเตอร์ ฮิวอี้ สังกัดหน่วยบิน 2034 กองทัพอากาศดอนเมือง ที่ส่งกำลังบำรุงทางอากาศ สถานีสื่อสารเขาชะเมา และขาดการติดต่อที่บริเวณ อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดยังไม่พบเบาะแส หรือสิ่งที่เชื่อมโยงการหายไปของเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย โดยได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วม 100 นาย พร้อมชาวบ้านขึ้นค้นจุดผารองเท้านารี หลังทีมค้นชุดแรกได้กลิ่นน้ำมันและกลิ่นเหม็นเน่า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น



 ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุล ผบก.ภ.จ.จันทบุรี พล.ต.สุริยา ปาวรีย์ ผบ.มทบ.14 เรียกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 34 นาย เจ้าหน้าที่ ตชด.12 นาย เพื่อประชุมวางแผนก่อนจะเดินทางขึ้นไปปฏิบัติการค้นหา บริเวณที่ทีมค้นหาทีมแรกขึ้นไปตั้งแต่ตอนเช้า ว่าได้พบกับกลิ่นน้ำมันและกลิ่นเหม็นเน่าคล้ายกลิ่นซากสัตว์ บริเวณผารองเท้านารี หรือผาคลองสอง ม.3 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จันทบุรี ก่อนจะปล่อยแถวเดินเท้าขึ้นไปยังบริเวณดังกล่าว ระยะทางขึ้นไปประมาณ 3 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยด้านบนมีกำลังชุดแรกที่มีชาวบ้านที่นำโดยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รออยู่ การเดินเท้าใช้วิธีการเดินเรียงแถวขึ้นไป แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก ภายหลังพายุฝนเพิ่งเทลงมาอย่างหนักกว่าชั่วโมง และฝนยังตกโปรยปรายเป็นระยะจึงทำให้พื้นดินลื่นการเดินทางจึงยิ่งลำบากเพิ่มขึ้นมี



 โดยการเดินทางมีนายวินัย กลิ่นเกสร อายุ 43 ปี ชาวบ้านที่ชำนาญทาง อาสานำทางเจ้าหน้าที่รวม 46 นาย ขึ้นไปยังพิกัดที่ 946349 ท่ามกลางฝนที่กำลังเริ่มโปรยลงมาอีกรอบ และพบว่ามีการนำเจ้าหน้าที่ทหารที่เดินเท้าชุดแรกเมื่อช่วงเช้าที่ได้รับบาดเจ็บ พากันพยุงร่างของพลทหารณัฐวุฒิ เจี่ยมจักร สังกัด มทบ.19 ลงมา โดยมีอาการบาดเจ็บหัวไหล่ด้านขวาหลุด จึงรีบนำตัวส่ง รพ.ใกล้เคียงทันที และต่อมาก็ได้นำตัวของผู้สื่อข่าวสาวคนหนึ่งที่ถูกตัวต่อต่อยที่แขนและลำตัวลงมาจากเนินเขาส่งรพ.ทันที



 นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า การค้นหาปูพรมในการค้นหาทั้งเฮลิคอปเตอร์นักบินและผู้ช่วยให้ได้มากที่สุด ทุกหน่วยงานระดมกำลังทำงานช่วยเหลือพร้อมกับชาวบ้านอย่างเต็มความสามารถ และยืนยันว่า เราไม่ได้เน้นเฉพาะจุดที่มีชาวบ้านมาแจ้งเบาะแส แต่เราจะใช้หลักการเหตุและผลอีกทั้งความปลอดภัยของทีมงานทั้งหมด ซึ่งตอนนี้เมืองไทยเรามีอะไรที่ช่วยได้เราก็ระดมมาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหน่วยนาวิกโยธิน ชาวบ้าน อาสาสมัครหน่วยโรยตัว ทุกฝ่ายมาช่วยกันทั้งหมด แต่สภาพพื้นที่ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นจึงต้องเป็นกำลังใจให้กัน



 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ทหารตกในครั้งนี้ ชาวบ้านต่างร่ำลือเกี่ยวกับความอาถรรพ์ของเขาวงกต ที่มีการเล่ากันมาช้านานเรื่องความเฮี้ยนของเจ้าป่าเจ้าเขา และผีป่า ที่พรานป่าในละแวกดังกล่าวและใกล้เคียง ต่างรู้ถึงกิตติศัพท์ของป่าแห่งนี้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ที่พรานป่าในหมู่บ้านหายตัวไปในป่าแห่งนี้ อย่างไร้ร่องรอยจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่พบตัว ชาวบ้านบางรายที่ขึ้นไปหาของป่า ต่างก็เจออิทธิฤทธิ์ของเจ้าป่า เจ้าเขาในรูปแบบต่างๆกัน ไม่ว่าจะเป็น สัตว์ที่มีตัวใหญ่เกินจริง จำพวก เสือ งู และช้างเป็นต้น รวมไปถึงเสียงประหลาดในรูปแบบต่างๆ จนทำให้ชาวบ้านที่เจอกลับมาเป็นไข้ถึงกับหัวโกร๋นไปเลย บางรายไม่กล้าเข้าไปในป่านี้อีกเลย ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน จึงต้องการให้มีการเซ่นไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา เพื่อให้ค้นพบเฮลิคอปเตอร์ที่หายไปโดยเร็ว เพราะอาจจะดูงมงาย แต่เรื่องนี้ชาวบ้านบอกว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะเป็นความเชื่อของชาวบ้านที่ประสบจริงกับหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาในอดีต อ่านเพิ่มเติม