Thursday, August 18, 2016

ททท.ลงพื้นที่จัด Big Cleanning Day สร้างความเชื่อมั่นให้กับ นทท.เขาหลัก


เมื่อวันที่ 18 ส.ค 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานเปิดงาน“Big Cleanning Day”  พร้อมด้วย นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า นายสวัสดิ์ ตันเก่ง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคึกคัก, เจ้าหน้าที่กองร้อย ตชด.ที่425 เจ้าหน้าที่ฐานทัพเรือภาคที่3 เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา ที่บริเวณตลาดนัดบางเนียง หมู่ที่ 5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา   และประชาชนในพื้นที่ที่เข้าร่วมทำกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2559 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ และระเบิด จำนวน 2 จุด ที่บริเวณตลาดนัดบางเนียง หมู่ที่ 5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ทำให้เกิดความเสียหาย โดยมีร้านค้าที่ถูกเพลิงไหม้ จำนวน 80 ร้านค้า มูลค่าความเสียหายทั้งสิ่งก่อสร้างและทรัพย์สิน จำนวนเกือบ 10 ล้านบาท

ทางด้าน นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการทำความสะอาด  และ ปรับปรุงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีในจังหวัดพังงา ให้กลับมาสู่สภาพที่สมบรูณ์อีกครั้ง และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเยี่ยมชมในสถานที่ดั่งกล่าว สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประกอบการร้านค้าที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นการใช้จ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 ครอบครัวละไม่เกิน 11,000 บาท

ตร.เห็นท่าไม่ดี!! เจอ 4 หนุ่มพยุงสาวเมา ขอตรวจค้นเจอปืนลูกโม่


 เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 19 ส.ค. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ กนกวิลาศ สวป. สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย จันลา รอง สวป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ได้เข้าจับกุมตัวนายพลเชฏฐ์ ทนพิพัฒน์ อายุ 23 ปี อยู่ ม.4 ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น แบบลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อ สมิทแอนด์เวสสัน เลขทะเบียนปืน 355063 เครื่องกระสุนปืน 5 นัด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย

 สืบเนื่องจาก ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อมาถึงบริเวณกลางซอย 6 พัทยากลาง พบผู้ต้องหาพร้อมเพื่อนรวมทั้งหมด 4 คน กำลังช่วยกันพยุงสาวเมาสุรา เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นท่าไม่ดี เพราะกลัวกลุ่มบุคคลเหล่านี้ อาจจะพาสาวเมาสุราไปทำมิดีมิร้าย เหมือนกรณี 4 โจ๋ลวงสาวเข้าโรงแรมไปข่มขืนจนเสียชีวิต ตามที่ตกเป็นข่าว จากการแสดงตัวขอตรวจค้นพบอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวซุกอยู่ในกระเป๋าสะพายผู้ต้องหา จึงทำการจับกุมทันที

สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวเป็นของพี่ชายรู้จักกัน ซึ่งเป็นตำรวจอาสาสมัคร สภ.หนองปรือ ที่ฝากไว้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของเมื่อวานที่ผ่านมา เลยพกพาอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวไปนั่งดื่มสุรากับเพื่อนจนเมามาย ส่วนผู้หญิงที่กำลังเห็นพยุงอยู่นั้น ยืนยันว่าเป็นญาติกัน โดยจะพาตัวสาวเมาสุราไปส่งบ้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี

ชาวบ้าน อ.ครบุรี โคราช ผวาอีกรอบ พบรอยหมีขนาดใหญ่ บุกสวนขนุน


นครราชสีมา บ่ายวันที่ 18ส.ค.59 เจ้าหน้าที่เขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่  3  คลองน้ำมัน ได้รับแจ้งจากนาย ผู้ใหญ่บ้านหนองแคทราย หมู่ที่8 ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ว่าพบร่องรอยสัตว์ป่าซึ่งคาดว่าจะเป็นหมีป่า บุกเข้าไปกัดกินลูกขนุนภายในสวนของชาวบ้าน  เกรงว่าจะมีชาวบ้านได้รับอันตรายจากสัตว์ป่าตัวดังกล่าว  จึงลงพื้นที่เข้าทำการตรวจสอบ


โดยจุดที่พบร่องรอยจุดแรก เป็นสวนขนุนอยู่ท้ายหมู่บ้านห่างจากตัวชุมชนไม่ถึง 500 เมตร และอยู่ห่างจากเขตอุทยานแห่งชาติทับลานไม่ถึง 4 กิโลเมตร มีร่องรอยสัตว์ป่าขนาดใหญ่ปลิดขนุนที่กำลังจะสุกงอมออกมาจากต้นและฉีกกัดกินกระจายอยู่ทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังพบรอยเท้าคล้ายรอยเท้าหมีขนาดใหญ่เดินอยู่ภายในสวน เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังแกะรอยตามรอยเท้าไป พบว่ารอยเท้าเดินวนไปวนมาระหว่างสวนขนุนของชาวบ้านกับไร่มันสำปะหลังในลักษณะที่คาดว่าเพิ่งจะเดินผ่าน อีกทั้งยังมีอุจจาระของสัตว์ป่าตัวดังกล่าวอยู่ระหว่างทางรอยเท้าด้วย  แต่เนื่องจากพื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่การทำการเกษตรหลากหลายชนิดและมีเนื้อที่กว้างใหญ่มาก ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องยุติการค้นหา และเตรียมประชุมหารือกันเพื่อวางแผนในการจับหรือผลักดันสัตว์ป่าตัวนี้กลับสู่ป่าธรรมชาติอีกครั้ง ขณะเดียวกันทางผู้นำชุมชนต่างๆที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็ประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายของหมู่บ้านให้ชาวบ้านระมัดระวังตัว อย่าออกไปทำไร่ทำสวนเพียงลำพังและหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่สุ่มเสี่ยงยามค่ำคืนเพื่อความปลอดภัย

 
นายบุญคง มิเล ผู้ใหญ่บ้านหนองแคทรายหมู่ที่ 8 เปิดเผยว่า จากที่ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่และประสบการณ์ของตัวเองมั่นใจว่ารอยเท้าและร่องรอยต่างๆที่พบในวันนี้น่าจะเป็นของหมีควายขนาดใหญ่น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม สังเกตได้ชัดเจนจากรอยเท้าที่เหมือนรอยเท้าคนแต่ไม่มีส้นเท้า และพฤติกรรมการกัดกินขนุนนั้นเป็นพฤติกรรมของหมีอย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการพบร่องรอยหมีออกมาใกล้กับชุมชนในพื้นที่ขนาดนี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยจับหรือผลักดันหมีตัวดังกล่าวกลับเข้าสู่ป่าโดยเร็วที่สุด เพราะขณะนี้ชาวบ้านจำนวนมากกำลังหวาดระแวงเกรงว่าจะได้รับอันตราย

“ยิ่งลักษณ์” มาศาลสืบพยานจำเลยคดีจำนำข้าวนัด 2 เผยควรมีหลักฐานก่อนว่า “แม้ว” บงการบึ้มใต้


 เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่  19 ส.ค. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมทนาย เดินทางมาขึ้นสืบพยานฝ่ายจำเลยคดีจำนำข้าวเป็นนัดที่สอง โดยนัดนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องตอบคำถาม แต่จะเป็นส่วนของฝ่ายพยานตอบข้อสงสัยแก่อัยการฝ่ายโจทก์ รวมถึงการซักถามจากผู้พิพากษาองค์คณะในคดี โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีต ส.ส.อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีต รมช.พาณิชย์ นายยรรยง พวงราช อดีต รมช.คลัง เป็นต้น พร้อมมวลชนร่วมให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย โดยทันทีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาถึงกลุ่มมวลชนได้มอบดอกกุหลาบสีแดง พร้อมตะโกน "รักยิ่งลักษณ์" "นายกฯ ยิ่งลักษณ์สู้ๆ" เพื่อให้กำลังใจ

 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าศาลฯ ถึงกรณีมีบางฝ่ายกล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดชายแดนใต้ว่า นายทักษิณได้ปฏิเสธและส่งทนายดำเนินคดีแล้ว ส่วนตนอยากให้ผู้เกี่ยวข้องสืบเรื่องให้ชัดเจนก่อน

 น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีเอกสารลับการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ให้นโยบายอย่าให้ความเป็นธรรม สั่งเร่งรัดดำเนินคดีว่า ตนหวังว่าจะได้รับความยุติธรรม เพราะคดีนี้เป็นคดีสำคัญ ตนคงพูดได้เท่านี้

 อดีตนายกฯ กล่าวถึงกระบวนการแก้ไขคำถามพ่วงของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่พยายามจะให้ส.ว.เลือกนายกฯ และจะขอลดขั้นตอนการเสนอชื่อนายกฯ คนนอก ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญว่า อยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนเพราะการเลือกนายกฯ ต้องเลือกจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองก่อน ซึ่งเป็นเจตนารมณ์เริ่มต้น ส่วนจะไปตีความขยายอะไร อย่างไรนั้นขอให้คำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนว่าประชาชนได้รับทราบข้อมูลอย่างไร การขยายความอะไรต้องคำนึงถึงกรอบที่ได้เสนอไว้เริ่มต้นด้วย

 อย่างไรก็ตาม หากสุดท้ายส.ว.เสนอนายกฯ คนนอกขึ้นจริง ก็หวังว่าทุกฝ่ายจะไม่ทำอะไรผิดเจตนารมณ์และเคารพเสียงของประชาชน แม้ผลประชามติจะออกมาอย่างไร อยากให้ผู้ร่างรัฐธรรมนูญคำนึงถึงเจตนารมณ์นี้ เพราะหากเดินหน้าตามกติกา ทุกอย่างก็จะเข้าสู่ความสงบ