"หนุ่ม-กรรชัย" พิธีกรถามว่า เรื่องราวเกิดอะไรขึ้นอย่างไร
คุณปะระนิสากล่าวว่า "ร้านจะเปิดเวลา 3 ทุ่มถึงตี 2 วันนั้นมีคนมาเที่ยวประมาณ 3 โต๊ะ เรื่องเกิดขึ้นตอนนั้นร้านยังไม่เปิดให้บริการ แต่ก็มีทางลูกค้ากลุ่มของเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาในร้าน ซึ่งก็มีพนักงานอยู่คือคุณอ้อมที่เป็นดีเจต้องมาเช็คเครื่องเสียง และก็คุณแหม่มพนักงานเสิร์ฟที่ต้องมาทำความสะอาด วันที่เกิดเหตุประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง คุณแหม่มก็กำลังทำความสะอาด และก็มีผู้ชายคนหนึ่งเสื้อเขียวเดินมาถามที่หน้าร้านว่าน้อง ๆ ร้านเปิดยัง ด้วยความที่หนูอยากให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ ก็เลยบอกว่าเปิดแล้ว
"ตอนนั้นในร้านมีแค่คุณแหม่มที่เป็นพนักงานเสิร์ฟ กับคุณอ้อมดีเจอยู่กัน 2 คน พอผู้ชายคนนั้นเข้ามานั่งในร้าน เขาก็สั่งเบียร์หนึ่งขวด พอแกมานั่งอยู่ไม่นานแกก็บอกว่าเดี๋ยว ๆ น้อง เดี๋ยวพี่ขอรอเพื่อนก่อนนะเพื่อนจะเข้ามา พอรอไปสักระยะแกเลยถามหนูว่าที่นี่ไม่มีเด็กออฟหรอ หนูก็เลยบอกไปว่าไม่มีค่ะ ที่นี่ไม่มีการขายเด็ก ทีนี้แกก็เลยบอกว่างั้นพี่ให้ 2 พันเอาไหม"
พิธีกรถามว่า เขาให้สองพันค่าอะไร?
คุณแหม่มกล่าวว่า "เขาให้เราแบบมาขายตัวให้เขา เหมือนกับให้เรา 2 พัน เขาแค่พูด ยังไม่ได้หยิบเงิน หนูก็เลยบอกว่าหนูไม่รับ เพราะมันเป็นเงินที่แบบว่าไม่ดีอ่ะคะ พอหนูไม่รับแล้วเขาก็เดินไปที่บูทดีเจที่คุณอ้อมอยู่"
คุณอ้อมกล่าวว่า เขาเดินมาในบูทดีเจ ก็ยื่นเงินให้หนูค่ะ พอหนูรับเงินมา หนูยังไม่รู้อะไร หนูกำลังกดแป้นพิมพ์อยู่ค่ะ สักพักหนูก็รับมาและหนูก็เดินออกมาหน้าร้าน ตอนนั้นที่รับมาเราก็คิดว่าลูกค้าให้ พอรับมาเสร็จก็เดินมาหาคุณแหม่ม ปรึกษากันดูว่า พี่แหม่มรู้ไหมว่าเงินค่าอะไร อยู่ดีๆเขาก็เอาเงินมาให้หนู พี่แหม่มก็บอกว่าโดนเหมือนกัน แต่ไม่รับ เรา 2 คนก็คิดว่าจะเอาเงินไปหาพี่แก จะเอาไปคืน
"ทีนี้บังเอิญว่าตำรวจเข้ามาพอดี ประมาณ 4-5 คนได้ เขาก็บุกมา และอ้อมถือเงินอยู่ เขาก็บอกว่าหนู หนูรู้ไหมว่านี่เงินตำรวจนะ หนูก็เลยบอกว่าไม่ทราบค่ะ และเขาก็เอาโทรศัพท์มาให้ดู เขาถ่ายรูปไว้ก่อนแล้ว และเขาก็ถามว่าเหมือนกันไหม หนูก็บอกว่าเหมือนค่ะ เขาก็บอกว่านี่เงินตำรวจนะ หนูโดนข้อหาค้าประเวณี หลังจากนั้นเขาก็ไล่ให้ไปนั่งข้างใน และก็งง ๆ เพราะอยู่กันสองคนทำอะไรไม่ถูก จากนั้นทางตำรวจก็บอกให้คุณแหม่ม โทรหาคุณสาผู้ที่ดูแลร้าน ให้มาที่ร้าน"
คุณแหม่ม กล่าวว่า ตำรวจก็บอกหนูว่าหนู ๆ ใจเย็น ๆ ไม่ต้องตื่นเต้นนะ เพราะว่าเป็นแค่ตำรวจสายตรวจมาตรวจร้านทั่วไป เขาให้หนูบอกเจ้าของร้านว่าเป็นแค่สายตรวจเฉย ๆ และให้แกรีบมาดูร้าน เขาไม่ให้เราบอกอะไรเลย
พิธีกรถามว่า หลังจากนั้นคุณได้รับโทรศัพท์แล้วเดินทางมาที่ร้าน เกิดอะไรขึ้น
คุณสากล่าวว่า พอมาถึงร้านก็เห็นดีเจอ้อมโดนล็อคอยู่โต๊ะหนึ่งมีคนคุม และแหม่มก็โดนล็อคอยู่โต๊ะหนึ่งมีคนคุม ตอนแรกเดินเข้ามาหน้าร้านเขาก็เรียกชื่อเล่นเรา สารวัตรที่นั่งตรงข้ามเรา(เราทราบภายหลังว่าเป็นสารวัตร) เชิญเราเข้าไปข้างใน เรามีเรื่องต้องตกลงกัน เราก็งงว่าต้องตกลงเรื่องอะไร พอเห็นอ้อม-แหม่มโดนล็อคไว้ รู้เลยต้องมีเรื่องไม่ดีแน่ ๆ พอเราเดินไปไม่ถึงวินาที เขาบอกเนี่ยคุณโดนข้อหาค้ามนุษย์กับค้าประเวณี เราก็เลยถามว่าข้อหาอะไรคะ เขาก็บอกว่าเนี่ยไงเงินสองพันวางอยู่บนโต๊ะ เขาบอกว่าเนี่ยลูกน้องคุณรับเงินผม ประมาณว่าอ้อมรับเงินแล้วที่จะไปนอนกับเขา
แล้วเราก็บอกว่าแล้วเงินคุณให้ฉันหรือเปล่า คุณมาจ่ายที่ฉันไหม ที่คุณหาว่าฉันค้าประเวณี เขาก็เลยทำหน้าเสีย เขาบอกโอเคและก็หันไปทางอ้อม และก็บอกว่างั้นมึงก็รับเอง ทางสารวัตรพูดเลย อ้อมบอกว่าหนูไม่รับในเมื่อพี่เป็นคนให้หนูถือเงิน แหม่มก็พูดเสริมว่าใช่หนูก็โดน ทีนี้เขาก็พูดว่างั้นผมขอจับคุณข้อหาอื่น และก็หันมาถามว่าที่ร้านคุณมีใบอนุญาตหรือเปล่า เราก็ตอบว่าไม่มีค่ะ เพราะทั้งสาย 3 ไม่มีร้านไหนที่มีใบอนุญาตอยู่แล้ว พอเขาไม้ได้ข้อหานี้ เขาก็จะมาเล่นอีกอัน
เขารู้อยู่แล้วว่าถนนเส้นนั้นมันไม่มีอยู่แล้ว เขารู้ช่องอยู่แล้ว เราก็เลยอบกว่าได้ค่ะ ไม่มีใบอนุญาตแต่เราก็บอกว่าคุณอย่าเลือกปฏิบัตินะ คุณต้องไปตรวจสอบทุกร้าน เขาก็บอกว่ามึงอะกวนตีน หัวหมอ เขาใช้คำว่ามึงเลย เราก็เลยบอกว่าคุณเป็นถึงเจ้าหน้าที่ คุณอย่าใช้วาจาที่มันสถุน ซึ่งน้องก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะถ่ายคลิป แต่ถ่ายไม่ทัน ก็เลยถ่ายรูปเขาไว้สองรูป และเขาเห็นพอดีก็วิ่งมาคว้าโทรศัพท์กลับคืนไปและก็ชี้หน้ามึงมีสิทธิ์อะไรมาถ่ายรูปกู และทีนี้ก็เอามือถือไปลบรูปเขา และเราก็ขอโทรศัพท์คืนได้ไหมคะ เขาบอกว่ากูไม่ให้กูจะยึด"
พิธีกรถามว่า หลังจากนั้นคุณทำอย่างไร?
"จากนั้นเขาก็สั่งให้ลูกน้องเขาใส่กุญแจมือ เพื่อเอาเราขึ้นรถ เราก็บอกว่าไม่ไป เราขอคุยโทรศัพท์หาญาติ เพราะญาติจะได้รู้ว่าเราออกไปข้างนอก ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเราจะไปกับตำรวจ และเราก็ไม่รู้ว่าคุณเป็นตำรวจจริงหรือเปล่า พอเราเดินออกไปคุยโทรศัพท์เขาก็กระชาก และบอกให้มึงไปคุยทางโน้น ที่เป็นบูทดีเจ พอเราไปโทรเราก็ได้ติดต่อไปหาญาติเราที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นข้าราชการ
ท่านน่าจะเคยพบเจอท่าน ผบ.ตร. ทีนี้ญาติเราเขาก็เลยบอกว่าโทรร้องเรียนตรงเลย เขาไม่ให้เราโทรเข้า191 เพราะว่ามันจะช้า ทางผู้ใหญ่ของเราให้เบอร์ท่านมา เราก็โทรตรงหาท่านเลย ท่านก็รับ ท่านก็ถามว่าเป็นอะไร เราก็เล่าไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่านก็บอกว่ามันไม่ใช่แล้ว ขอคุยหน่อยสิว่าเป็นตำรวจหรืออะไร เราก็ส่งให้ และสารวัตรก็พูดมาว่า มึงอะบ้าคุยโทรศัพท์คนเดียว
ท่านก็เลยให้เปิดลำโพง และก็ให้ยื่นโทรศัพท์อีกครั้งหนึ่ง แค่จะถามว่ามายังไง จากหน่วยไหน ร้านผิดอะไร และก็ถามกำชับเราว่าหนูทำผิดอะไร ถ้าทำผิดก็ต้องดำเนินคดีนะ หนูก็บอกว่าหนูมั่นใจว่าหนูไม่ผิด เขาก็บอกว่าถ้ามันเป็นผบ.ตร.จริง ๆ ให้มันโทรหาผู้การและให้ผู้การมาสั่งกู และเราก็หันกลับไปที่สาย ได้ยินนะคะ เขาให้ท่านโทรหาผู้การ ซึ่งท่านก็วางสายเลย หลังจากนั้นผู้การก็โทรกลับมาหาเรา
เราก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ท่านก็บอกมันใช่หรอ งั้นขอคุยกับตำรวจที่มาหน่อย คือตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใคร ตำรวจชุดนั้น ทีนี้ก็เปิดลำโพง เขาก็บอกอีกว่าไม่ใช่เสียงนายกู ท่านก็ได้ยิน ท่านบอกว่าหนูใจเย็น ๆ และท่านก็วางสายไป คือพวกเขาจะล็อคตัวเราให้ได้ สักพักนึงโทรศัพท์เขาก็ดัง เขาก็ไปคุยอีกมุมหนึ่ง และก็เดินกลับมาบอกว่าเนี่ย ผู้ใหญ่โทรมาแล้ว
เขาก็มาสอนเราว่าทำไมน้องไม่ทำทีละสเต็ป ก็คือให้ผู้ใหญ่ข้างบนโทรมาสั่งนายพี่ เราก็บอกว่าทำไมต้องทำทีละสเต็ปในเมื่อเราไม่ได้ทำอะไรผิด เขาก็บอกว่าคุณไม่มีใบอนุญาต ส่วนเรื่องข้อหาค้าประเวณีเขาก็เงียบไปเลย ไม่ได้พูดถึง หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยเราเลย เราก็บอกเขาว่าพี่ไม่คิดจะขอโทษสักคำเหรอคะ เขาก็บอกว่าขอโทษเรื่องอะไร แล้วก็มีดาบท่านหนึ่งพูดขึ้นมาว่า เดี๋ยว ผบ.ตร.เดี๋ยวผู้การ เดี๋ยวกูจะปลดให้ดู ถ้าเป็น ผบ.ตร.จริง จะเอาชื่อไปลงบันทึกประจำวันด้วยว่าช่วยผู้กระทำผิด และก็จะปลดออกจากราชการ"
พิธีกรถามว่า หลังจากนี้คุณไปแจ้งความเพิ่ม ข้อหาอะไร?
"กักขังหน่วงเหนี่ยว กรรโชกทรัพย์ และก็พยายามทำร้ายร่างกาย จะง้างมือตบน้อง และก็ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังจากนั้นก็มีคนติดต่อมา เราไม่รู้จัก เราก็รับ เขาก็อบกว่าพอจะคุยกันได้ไหม จะขอเคลียร์เรื่องคดี และก็ทำขวัญ แต่เราก็ไม่ได้คุยต่อ และก็มีคนจะให้เงินห้าแสนเพื่อทำขวัญ คือเราไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่จริง เราก็ไม่แน่ชัดว่าเป็นใคร และจะโดนอะไรอีก มันมาจากหลายสาย เรากลัวว่าเราจะโดนอะไรอีก ก็ปฏิเสธไปหมด เราจะไปยืนยันว่าเขามาเสนอก็ไม่ได้เพราะว่ามันมีคนโทรมาเยอะมาก เรื่องนี้ก็จะดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่มีการยอม"
พิธีกรถามว่า ทราบไหมว่าทุกวันนี้ตำรวจท่านนี้ถูกย้าย?
"ทราบค่ะ เขาบอกว่าเขาปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา แต่เท่าที่เรามองมันไม่ตรงนะ มันเหมือนโจรมากกว่าไม่ใช่ตำรวจ"







0 comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.