Saturday, July 23, 2016

พายุฝนกระหน่ำโคราช ต้นไม้หักโค่นทับปิกอัพ 5 ชีวิตรอดตายหวุดหวิด(คลิป)





 เมื่อเวลา 17.15 น. วันนี้ 23 ก.ค. ได้เกิดฝนตกหนักและลมพัดแรงในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ส่งผลให้ต้นพิมานขนาดใหญ่ที่ริมถนนสาย 304 นครราชสีมา-ปักธงชัย บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 288-289 ใกล้กับโรงพยาบาลริมลีฟวิ่ง ตำบลไชยมงคล อำเภอเมืองฯ จ.นครราชสีมา หักโค่น จำนวน 5 ต้น ต่อเนื่องกันเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร และยังได้ทับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูสุ รุ่นดีแม็ก 4 ประตู ทะเบียน กท 5389 นครราชสีมา ได้รับความเสียหายหลังคาและหน้ารถยุบ

 โดยมี นายณรงศักดิ์ วุฒิประสิทธิ์  อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 1 ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์  เป็นคนขับ และมีภรรยา ,ลูกชาย, ลูกสะใภ้ และหลาน โดยสารมาทั้งหมด 5 คน  รอดตายหวุดหวิด

 นายณรงศักดิ์ วุฒิประสิทธิ์ คนขับรถกระบะเล่านาทีระทึกให้ฟังว่า ขณะที่ตนขับรถพาครอบครัวกลับจากไปซื้อของในตัวเมืองนครราชสีมาและกำลังเดินทางจะกลับบ้านที่อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เมื่อรถวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุขณะนั้นฝนตกลงมาอย่างหนักและมีลมกระโชกแรงจนมองแทบไม่เห็นทาง ตนจึงได้ชะลอความเร็วและขับตามรถคันหน้ามาเรื่อยๆ ทันใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นต้นพิมานที่อยู่ข้างถนนขนาดใหญ่ได้ล้มทับรถตนเองอย่างแรงเสียงดังสนั่น
ตนตกใจมากและคนในรถก็ได้ร้องด้วยความตกใจและหมอบลงที่เบาะ  หลังเกิดเหตุตนและครอบครัวได้พยายามหาทางออกจากตัวรถโดยปีนออกมาทางประตูหลังด้านซ้าย ซึ่งทุกคนอยู่ในอาการขวัญผวาแต่ดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ สำหรับรถของตนทำประกันชั้น 3 เอาไว้ ก็คงไปเรียกร้องค่าเสียหายอะไรกับใครไม่ได้เพราะเป็นอุบัติเหตุทางธรรมชาติ  รอดตายมาได้ก็ดีแล้วสงสัยจะต้องกลับไปทำบุญครั้งใหญ่กันทั้งครอบครัวเรียกขวัญและเพื่อความเป็นสิริมงคล

สำหรับเหตุการณ์ต้นไม้ล้มทับรถบริเวณดังกล่าวครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองในรอบปีนี้ นอกจากนี้เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้การจราจรถนน 304 ช่วง นครราชสีมา-ปักธงชัย ถูกตัดขาดเพราะต้นไม้ขวางถนนเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง และยังทำให้การจราจรติดขัดยาวกว่า 4 กิโลเมตร ตำรวจสถานีตำรวจโพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา ท้องที่เกิดเหตุต้องเร่งระบายรถด้วยการเปิดช่องทางพิเศษให้รถที่จะเดินทางไปยังอ.ปักธงชัย สามารถวิ่งสวนกับรถที่จะเข้าตัวเมืองนครราชสีมาได้

โดยหน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมาร่วมกับแขวงการทางที่ 3 นครราชสีมา ได้ระดมเลื่อยยนต์มาเร่งตัดกิ่งไม้ออกจากถนนเพื่อเปิดการจราจร จนถึงขณะนี้รถทุกชนิดสามารถสัญจรผ่านบริเวณดังกล่าวได้แล้ว

0 comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.