เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 ม.ค. พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.น.8 พ.ต.อ.ณัฏฐ์พัชร์ ผดุงจันทน์ ผกก.สน.บุปผาราม พ.ต.ท.ดร.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ร.ต.อ.อดุลย์ศิริ วงศ์ตันกาศ รอง สว.สส.สน.บุปผาราม และ ร.ต.อ.อนันต์ สว่างอัมพร รอง สว.สส.สน.บุปผาราม ร่วมกันจับกุม นายวิษณุ หรือนุ แสวงสุข อายุ 35 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ อยู่บ้านเลขที่ 232/5 หมู่ 7 ต..บางตาหงาย อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ และ น.ส.ขวัญตา หรือจอย วัฒนานนท์กิจ อายุ 36 ปี ภรรยา พนักงานร้านสะดวกซื้อ อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 2 ต.ห้วยทรายเหนือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
โดยจับกุมตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่12-13/2559 ลงวันที่ 5 ม.ค.59 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง แกแล็คซี่ รุ่น เอ 8 มูลค่า 15,900 บาท และรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพู ทะเบียน ทล 8411 กรุงเทพมหานคร จับกุมตัว นายวิษณุได้ที่อู่แท็กซี่ซอยเพชรเกษม 36 แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ กทม. ก่อนขยายผลไปจับกุม น.ส.ขวัญตา ได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ภายในตรอกวิ่งวัว แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม.
พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 03.35 น. วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา น.ส.เจนน่า (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ลูกครึ่งไทยอเมริกัน เป็นครูสอนภาษาเรียกรถแท็กซี่ของนายวิษณุ จากตรอกข้าวสาร เพื่อให้ไปส่งที่บ้านพักย่านอรุณอมรินทร์ แต่ด้วยความมึนเมา น.ส.เจนน่าได้นอนหลับที่เบาะหลังนายวิษณุ จึงถือโอกาสล้วงเอาโทรศัพท์มือถือพร้อมเงินสด จำนวน 600 บาท ของน.ส.เจนน่ามาเก็บเอาไว้ แล้วขับรถไปรับน.ส.ขวัญตา ภรรยาที่ห้องเช่า จากนั้นไปเปิดโรงแรมพักชั่วคราวย่านวงเวียนใหญ่ โดยนายวิษณุอุ้มผู้เสียหายลงจากรถไปนอนในห้องพัก
จากนั้น นายวิษณุ ขับรถออกมาจากโรงแรม โดยให้น.ส.ขวัญตาอยู่กับผู้เสียหาย เพื่อลวงพนักงานโรงแรมว่ามาส่งผู้โดยสารผู้หญิงเข้าพักเพียง 2 คน หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง นายวิษณุ ก็ย้อนกลับมาใหม่ โดยซื้อเบียร์มาด้วย 1 ขวด ในขณะที่นายวิษณุเดินเข้าห้องพักไปน.ส.เจนน่าสร่างเมาตื่นขึ้นมาพอดี จึงวิ่งหลบหนีออกมาจากห้องพัก นายวิษณุ และน.ส.ขวัญตา ได้ขับรถหลบหนีออกมา น.ส.เจนน่าได้เข้าแจ้งความ ที่ สน.บุปผาราม ต่อมาฝ่ายสืบสวนได้ออกติดตามจนได้ตัวทั้ง 2 สามีภรรยาไว้ได้
จากการสอบสวน นายวิษณุ ให้การรับสารภาพว่า ไม่มีเจตนาจะลวนลามผู้เสียหายแต่อย่างใด เพราะสงสารกลัวน.ส.เจนน่าจะติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากตนติดเชื้อเอชไอวีมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว น.ส.ขวัญตา ภรรยาก็ติดเชื้อจากตนไปแล้วเหมือนกัน เพียงแต่ต้องการนำโทรศัพท์ของผู้เสียหายไปขาย เพื่อนำเงินมารักษาตัวเท่านั้น ไม่ได้ต้องการล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด ตอนแรกเพียงคิดจะซื้อเบียร์กลับไปดื่มย้อมใจ และรับภรรยากลับจะทิ้งน.ส.เจนน่า ไว้ที่โรงแรม
พ.ต.ท.ดร.ปราโมทย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติ นายวิษณุ และ น.ส.ขวัญตา พบว่าเคยถูกดำเนินคดีข้อหาเสพกัญชาและยาบ้ามาก่อน และไม่เชื่อคำให้การของนายวิษณุ และ น.ส.ขวัญตา ที่อ้างว่า ต้องการแค่ทรัพย์สินของผู้เสียหายเท่านั้น เพราะว่าจากการตรวจสอบในมือถือของนายวิษณุ พบคลิปบันทึกภาพอนาจารระหว่าง นายวิษณุ และน.ส.ขวัญตา จำนวนมากถ่ายเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ เบื้องต้นส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.ศิริราช เพื่อรอผลยืนยันอีกประมาณ 60 วัน และนายวิษณุ น่าจะก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากพบหลักฐานมีภาพโทรศัพท์มือถือรุ่นต่างๆ ที่คาดว่าเป็นของผู้โดยสาร ส่งไปขายเพื่อนๆ ทางไลน์ กว่า 10 เครื่อง มีทั้งไอโฟน ซัมซุง แบล็คเบอร์รี่ และกล้องคอมแพคดิจิตัล
แต่จากการสอบสวน นายวิษณุ อ้างว่าเป็นทรัพย์สินของผู้โดยสารที่ลืมหรือทำหล่นไว้บนรถ แต่ตนไม่ได้ส่งคืน นำไปขายต่อเพื่อหาเงินรักษาตัวเท่านั้น ผู้ใดสงสัยเคยถูกนายวิษณุ และน.ส.ขวัญตา ล่อลวงไปก่อเหตุขอให้ไปดูตัวได้ที่สน.บุปผาราม







0 comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.